ผ่าแผน “แป้ง นาโหนด” ดับเครื่องชน แฉแหลก ตำรวจ – อัยการ สรุป หนีอยู่ไหน ?

กรณีของ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ท้าทายการทำงานของตำรวจแบบสุดขีด จากประเด็นล่าสุด ที่ออกมาแฉผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการ พร้อมโต้ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม วันนี้ "ถกไม่เถียง" จะมาวิเคราะห์ถึงจุดจบคดีนี้ จะเป็นอย่างไร ห้ามพลาด !

 

 

            วันที่ 27 พ.ย. 2566 พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้ ในรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ กล่าวว่า ประเด็นที่ตำรวจใช้เวลาในการตามจับเสี่ยแป้งกว่า 1 เดือนนั้น จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ช้าเลย เพียงแต่ว่าเป็นคดีที่ประชาชนสนใจ สมัยตนเป็นตำรวจ บางทีตามจับผู้ต้องหา 20 ปี เกือบจะขาดอายุความก็มี แต่ประชาชนไม่ได้สนใจในคดีนั้น ขณะเดียวกัน คนหนี กับคนตามมันก็ไม่เหมือนกัน คนที่หนี มันก็หนีขึ้นป่าไปได้เรื่อย มีคนพาหนีเขาก็ไปได้ ส่วนตำรวจเวลาจะทำอะไรมันต้องมีกระบวนการ มีรูปแบบ จะขึ้นเขาไปจับ มันก็ต้องมีการปิดล้อม มีการกระชับพื้นที่ ต้องทำทุกอย่างจนกว่าจะจับได้ 

 

            สำหรับกรณีที่เสี่ยแป้งออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ขบวนการยุติธรรมถึง 2 คลิป เขาทำเพื่ออะไร หรือทำเพื่อตบหน้าใครหรือเปล่าตนก็ไม่ทราบ ทว่าเขากลับไม่พูดถึงกรมราชทัณฑ์เลย ทั้งที่เป็นต้นเหตุให้เขาหลบหนีออกมา เพราะ เขาได้ประโยชน์จากการหลบหนี อย่างไรก็ตาม ศาลชั้นต้น เขาอาจจะพิจารณาคดีของเสี่ยแป้งผิดจริงก็ได้ แต่ขบวนการยุติธรรมมันยังไม่จบ ยังอุทธรณ์ได้ ฎีกาก็ได้ ระหว่างนี้เขาก็สามารถส่งหลักฐานสำคัญได้ เขามีวิธีการแฉได้ตั้งมากมาย ไม่ใช่มาหนีแบบนี้ ต้องมาเสี่ยงจะโดนวิสามัญอีก ทว่าการที่เขาออกมาแฉนั้น มันจะเป็นกระบวนการหนึ่งให้การตรวจสอบระบบข้าราชการดีขึ้น ต่อไปใครจะทำอะไรก็ต้องตรงไปตรงมา เพราะประชาชนจับตาอยู่ ดังนั้นผู้นำองค์กรณ์ก็ต้องไปคิดปรับปรุงดูแลให้มันถูกต้องชอบธรรม 

 

  

 

            ส่วนประเด็นที่เสี่ยแป้งจะยอมมอบตัว โดยมีข้อแม้ให้เอาอัยการมารับผิดด้วย ตนบอกเลยว่า เป็นไปไม่ได้ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้นจะไม่มีการต่อรองใด ๆ ซึ่งถ้าเขามามอบตัว เขาจะได้อยู่เป็นไข่ในหิน เพราะ คุณมาพูดความจริง จะเป็นอะไรไปไม่ได้ อีกทั้ง ยังสามารถเอาคำร้องเรียนของเสี่ยแป้งไปสืบหาความจริง ว่าอัยการเกี่ยวข้องอย่างไรกับคดีนี้ 

 

           ขณะเดียวกัน คลิปที่เสี่ยแป้งออกมาแฉนั้น ตอนแรก ตนก็มองว่าน่าจะไม่ใช่ตัวจริง เพราะไปเสพรูปสมัยเขายังไม่โดนจับ ยังมีหนวด ใส่สูทผูกเน็กไทด์ แต่พอตนได้พิจารณาดูดีดี อีกทั้งได้ไปสอบถามคนใกล้ชิดเสี่ยแป้ง และตำรวจที่ทำคดีนี้ ก็ยืนยันได้ว่าในคลิปเป็นตัวจริงแน่นอน ทั้งนี้ส่วนตัวตนคิดว่าเสี่ยแป้งน่าจะไม่ได้หนีไปประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเรามีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าไม่ใช่คดีการเมือง เขาอยู่ได้ไม่นานแน่นอน ยังไงก็ไม่รอด ไปไหนก็ไม่มีใครรับ ซึ่ง ตนคิดว่า เขาน่าจะอยู่กับคนที่มีอำนาจคุ้มครองเขาได้ และอยู่ในป่าในเขา หรือสวนสักแห่ง  

 

 

            ฟาก ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ ตนมองว่า ไม่มีคนดีที่ไหนแหกคุก หรือหนีกระบวนการยุติธรรมออกมาต่อสู้หรอก และการที่ประชาชนเสียงแตกเป็น 2 ฝั่ง สำหรับคดีนี้ เพราะ ก่อนหน้านี้กระบวนการยุติธรรมของประเทศเรา สร้างความน่าฉงนสงสัยในหลายคดี ทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่า กระบวนการยุติธรรมนั้น ยุติธรรมจริงหรือไม่ ขณะที่ เสี่ยแป้ง หนีออกมาและตั้งคำถามโจมตีกระบวนการยุติธรรมไทย ทำให้มีประชาชนคนไทยเห็นด้วยกับผู้ร้ายรายนี้ ทว่าสุดท้ายแล้ว การที่ออกมาสู้ด้วยวิธีแบบนี้ มักจะจบไม่สวยซักราย 

 

            ส่วนเรื่องที่เขามาต่อรอง ตนมองว่า เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรอง มันมีแต่พวกผู้ก่อการร้ายที่ทำแบบนี้ เสี่ยแป้ง เขาทำผิดกฎหมาย ทำไมถึงไม่ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน สู้ด้วยหลักฐานในที่สาธารณะ จะอ้างว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ก็เปิดหลักฐานออกมา ว่าไม่ได้รับความยุติธรรมแบบใด 

 

 

            ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของตน สิ่งที่เสี่ยแป้งต้องการมากที่สุด คือลากคนที่มีส่วนร่วมรู้เห็น ได้รับผลประโยชน์ที่เคยได้รับร่วมกันมา ไปรับผิดร่วมกัน หรือพูดแบบหยาบ ๆ "มึงต้องลงนรกไปกับกูด้วย" เพราะเขารู้สึกโดนหักหลังจึงไม่ยอมที่จะรับผิดคนเดียว ส่วนคนที่เกี่ยวข้องตอนนี้ก็คงร้อนใจแล้ว และตนเชื่อว่าคนพวกนี้เขาจะต้องเก็บหลักฐานไว้อยู่แล้ว ดังนั้นในช่วงนี้ ใครที่ออกมาพูดพร้อมแสดงหลักฐานก่อน จะได้เปรียบ ส่วนจุดจบของคดีนี้ มี 2 ทาง ทางแรกคือถ้าเขาอยากรอดก็มามอบตัว แต่ถ้าเขายังมีพฤติการณ์ต่อสู้ตำรวจอยู่ก็คงจะถูกจับตาย นอกจากนี้ ตนคิดว่าเขาหลบหนีอยู่ในเมืองไทย และมีคนไทยช่วยเหลือเขาอยู่