รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม ยืนยัน จำเลยยังอยู่ในกรอบเวลาของการเยียวยา 30 วัน หากยืดเยื้อจะมีผลเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ขณะที่เหยื่อคดีแพรวา 9 ศพ ปฏิเสธเงิน เงิน 5 แสนของราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ชี้เพราะไม่ใช่คู่กรณีโดยตรง
วัยนที่ 23 ก.ค. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีนางสาวแพรวา โดยพบว่าแม้ศาลแพ่ง ชั้นฎีกาจะมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้ง 4 คน จ่ายเงินเยียวยาให้แก่ผู่เสียหาย ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ไม่มีจำเลยเดินทางมาฟังคำพิพากษา ศาลจึงต้องส่งคำบังคับให้กับจำเลยที้ง 4 คน ที่อยู่ต่างสถานที่ ทำให้เวลารับคำบังคับไม่ตรงกัน ซึ่งจำเลยที่ 2 และ 4 ปิดหมายไปวันที่ 6 กรกฎาคม ส่วนจำเลยที่ 1 และ 3 ปิดหมายไปวันที่ 13 กรกฎาคม
ซึ่งหลังจากการรับหมายบังคับ จะอยู่ในช่วงเวลา 15 วันปิดหมาย และเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งครบกำหนด 30 วัน คือวันที่ 28 สิงหาคมนี้ ดังนั้นจำเลยจึงยังอยู่ในช่วงเวลาในกรอบของการเยียวยา ไม่ได้การประวิงเวลา แต่หากหลังจากครบกำหนดแล้วยังไม่มีการจ่ายเงินเยียวยา ก็จะต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี ให้กรมบังคับคดีดำเนินการยึดทรัพย์ได้ทันที
โดยค่าเสียหายที่ศาลตัดสินอยู่ประมาณ 25 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี หากนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุคือ 27 ธันวาคม 2553 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2562 จำเลยทั้ง 4 ต้องชำระหนี้รวมเป็นเงินประมาณ 41 ล้านบาท หากมีการประวิงเวลาก็จะมีการคิดดอกเพิ่มทุกวันโดยเฉลี่ยเดือนละ 1 แสนบาท หรือปีละ 1 ล้าน 2 แสนบาท ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อตัวจำเลยเองที่จะต้องชำระดอกเบี้ย แต่หากมีผู้ซื้อที่ดินก็จะสามารถเยียวยาให้กับผู้เสียหายได้
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์กรศุทธิ์ ขอพ่วงกลาง ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีแพรวา 9 ศพ หรือ กรณี นางสาวรวินภิรมย์ อรุณวงศ์ ขับรถเก๋งชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ เจ็บ 6 คน และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยา
ก่อนที่ในเวลาต่อมาทางราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้ออกมาแถลงแสดงความเสียใจต่อเหตูการณืที่เกิดขึ้น พร้อมจะมอบเงิน 500,000 บาท ให้แก่ผู้เสียหายเพื่อเป็นกองทุนใช้เรียกร้องเงินเยียวยาว่า ขณะนี้ทางฝ่ายโจทก์ที่เสียหายไม่ขอรับเงินดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่คู่กรณี ขอรับสิทธิการเยียวยาตามที่ศาลตัดสินและยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีการเจรจาใด ๆ เกิดขึ้นอีก เนื่องจากระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมาถือว่านานเพียงพอแล้ว
ขณะการสืบทรัพย์หลังจากนี้ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องของการล้มละลาย เพราะทางฝ่ายจำเลยได้มีการออกมาแสดงเจตจำนงว่าจะขายที่ดินเพื่อชดใช้ แต่หากครบกำหนดสิ้นเดือนสิงหาคมแล้วยังไม่นำเงินมาเยียวยา กองบังคับคดีก็จะทำการยึดทรัพย์และขายทอดตลาดต่อไป หากจำเลยมีเงินมาเยียวยาไม่ครบจำนวนเงินที่ได้เบื้องต้นก็จะไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีโจทก์ทั้งหมด 28 ราย ศาลสั่งจำหน่ายคดีไป 3 รายคือโจทก์ที่ 6-8 เนื่องจากมีการเจรจาไกล่เกลี่ยจ่ายค่าเสียหายไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท
+ อ่านเพิ่มเติม