จากกรณี นายธงชัย กลางเมือง หรือ ไอ้ตั้ม ไส้แตก อายุ 30 ปี ก่อเหตุฆ่าโหด ใช้ปืนยิงหัว ‘น้องเอ๋ย’ น.ส.ปัชญา ปวงสุข อายุ 22 ปี แล้วนำศพไปโยนทิ้งน้ำลอยขึ้นอืดอยู่ริมห้วยพระคือ บ้านพระคือ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วานนี้ (26 เม.ย.) ที่วัดสุนันทาวาส จ.ขอนแก่น ครอบครัวของ น.ส.ปัชญา ปวงสุข อายุ 22 ปี หรือ น้องเอ๋ย เตรียมพิธีฌาปนกิจศพ ที่กำหนดจัดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ โดย นางประทุม มงคลทรัพย์ อายุ 52 ปี ป้าของน้องเอ๋ย กล่าวว่า ขณะนี้ญาติพี่น้องได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่และความพร้อมในการประกอบพิธีฌาปนกิจศพน้องเอ๋ย โดยลูกชายของน้องเอ๋ย อายุ 7 ขวบ จะบวชให้แม่ด้วย
นางประทุม กล่าวต่อว่า ในส่วนที่ตำรวจจับกุมนายธงชัย และ น.ส.ธรรมภัสสร พุทธรักษา อายุ 26 ปี ผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าน้องเอ๋ย และนำศพไปทิ้งน้ำนั้น ญาติพี่น้องทุกคนดีใจที่ตำรวจทำงานเร็ว จนสามารถจับคนร้ายได้ และญาติพี่น้องไม่ให้อภัยกับสองคนนี้เด็ดขาด ถึงแม้จะมากราบขอขมาศพน้องเอ๋ย ญาติก็ไม่ให้อภัย เพราะสิ่งที่สองคนร่วมกันทำนั้น มันโหดร้ายเกินที่จะอภัยได้ และขอให้รับโทษประหารตายตามน้องเอ๋ย เพราะถ้ารับโทษธรรมดาทั่วไป ก็ยังมีโอกาสออกจากคุกมาก่อเหตุซ้ำได้ คนอื่นจะจะเดือดร้อนอีก จึงอยากให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้รับโทษประหาร ตายไปทั้คู่
นางประทุม ยังกล่าวอีกว่า น้องเอ๋ย เป็นคนรักครอบครัว ตั้งแต่บิดา เสียชีวิตก็อยุ่กับยาย ป้า และมารดา ช่วยกันเลี้ยงดูมา เมื่อมีครอบครัวก็รักลูก รักสามี แต่ทั้งคู่ก็เลิกกันเพราะเหตุผลส่วนตัวถึงจะเลิกกับสามีแต่น้องเอ๋ยยังดูแลลูกมาโดยตลอด ทำงานหาเงินเลี้ยงลูก และจุนเจือครอบครัว เมื่อน้องเอ๋ยเสียชีวิตด้วยการฆ่าของคนใจร้ายเช่นนี้ ครอบครัวเสียใจ และสงสารหลานสองคน โดยส่วนตัวไม่เคยได้ใกล้ชิดกับน.ส.ธรรมภัสสร ผู้ก่อเหตุ แต่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ก่อนหน้านี้น.ส.ธรรมภัสสร เคยถูกจับในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ เพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้นก็หายหน้าออกจากหมู่บ้าน จึงไม่รู้ว่าน้องเอ๋ยกับน.ส.ธรรมภัสสร มีเรื่องบาดหมางกันหรือไม่ แต่ไม่น่าจะใจร้ายฆ่าน้องเอ๋ยได้เช่นนี้
ต่อมา นาวสาวมุทิตา แตงจันทึก นักวิชาการยุติธรรมปฏิบัติการ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะฯ เป็นตัวแทนของยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้องของน้องเอ๋ยด้วย พร้อมทั้งมีการพูดคุยกับญาติพี่น้อง เพื่อแจ้งสิทธิ์ที่ทายาทของน้องเอ๋ยจะได้รับการเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม แต่มารดาของน้องเอ๋ยไปพบพนักงานสอบสวนที่สภ.เมืองขอนแก่น จึงได้เพียงพูดคุยกับญาติถึงสิทธิ์ที่ทายาทจะได้รับซึ่งก็คือมารดา และบุตรทั้งสองคนของผู้ตายเพื่อมอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิต่อไป
ต่อมานางบัวฮอง แก้วเนตร อายุ 50 ปี มารดาพร้อมตาและยายของนายตั้ม ผู้ต้องหาได้มาเคารพศพของน้องเอ๋ย ท่ามกลางญาติพี่น้องของน้อเอ๋ยที่มาร่วมงานศพจำนวนมาก
นางบัวฮอง มารดาของนายตั้ม เปิดเผยว่า ตั้งใจมาเคารพศพและมาขอโทษครอบครัวของน้องเอ๋ย เพราะเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างน้อยก็เคยพบเจอกับน้องเอ๋ยในฐานะแฟนของลูกชาย ถึงแม้ทั้งคู่จะคบหากันในเวลาสั้นๆ ก็ตาม ด้วยความเข้าใจหัวอกของพ่อ แม่ญาติพี่น้องของน้องเอ๋ย จึงต้องมา แม่เคาะโลงศพ บอกกล่าวกับน้องเอ๋ยว่า ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน จะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ส่วนนายตั้มก็จะได้รับโทษในสิ่งที่ทำขึ้น เมื่อมาเคารพศพ และบอกกล่าวกับน้องเอ๋ยแล้วก็จะรอพบมารดาของน้องเอ๋ยเพื่อจะบอกว่าขอโทษ และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นางบัวฮอง ยังกล่าวทั้งน้ำตาอีกว่า ทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อยู่ระหว่างการเดินทางไปรับตัวนายตั้มที่จังหวัดตราดกลับมาที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งถ้าลูกถึง สภ.เมืองขอนแก่นแล้วก็จะไปเยี่ยมพร้อมกับอาหารที่ลูกชอบกิน คือข้าวมันไก่ ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว เพราะจะผิดขนาดไหน สำหรับคนเป็นแม่ อภัยให้ลูกเสมอ และยังรัก ห่วงใยลูกตลอด อีกทั้งสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เกิด เลี้ยงลูกได้แต่ตัว อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี แต่ลูกไม่เชื่อฟัง ก็ต้องรับโทษที่ตัวเองทำขั้น อย่างไรก็รักลูกเหมือนเดิม
+ อ่านเพิ่มเติม