‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นเพิ่ม กกต สอบ ‘ธนาธร’ ชี้พิรุธ โอนหุ้น วี-ลัค มีเดีย
logo ข่าวอัพเดท

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นเพิ่ม กกต สอบ ‘ธนาธร’ ชี้พิรุธ โอนหุ้น วี-ลัค มีเดีย

ข่าวอัพเดท : วันที่ 5 เม.ย. 62 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อ กกต. ให้ไต่สวน สอบสวน และ โอนหุ้น,วี-ลัค มีเดีย,ศรีสุวรรณ,ธนาธร,พรรคอนาคตใหม่

2,650 ครั้ง
|
05 เม.ย. 2562
วันที่ 5 เม.ย. 62 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อ กกต. ให้ไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัย เพื่อส่งให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
 
กรณีคุณสมบัติอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่พบข้อพิรุธว่าการโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย อาจเป็นการอำพรางนิติกรรม และเข้าให้ปากคำต่อ กกต. ถึงการแถลงข่าวโอนทรัพย์สินไปให้ trust หรือ กองทุน เป็นผู้ดูแล โดยอ้างว่าไม่เคยมีนักการเมืองคนใดทำมาก่อน ทั้งที่ในความเป็นจริงมีนักการเมืองมากกว่า 20 คน โอนหุ้นไปให้กองทุนบริหารจัดการ ซึ่งการแถลงข่าวของนายธนาธร เป็นการสร้างภาพหลอกลวง จงใจบิดเบือนข้อมูลเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับพรรคอนาคตใหม่ 
 
นายศรีสุวรรณ ยังตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่นายธนาธรอ้างว่าได้โอนหุ้นทั้งหมดให้แก่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (มารดา) โดยทำเป็นหนังสือตราสารโอนหุ้น ระหว่างนายธนาธร กับนางสมพร ลงวันที่ 8 ม.ค. 2562 โดยมีพยานรับรอง 2 คน ซึ่งได้ลงลายมือชื่อในตราสารโอนหุ้นต่อหน้าทนายความ ในวันเดียวกันนี้ นางสมพรได้ชำระเงินค่าหุ้นให้แก่นายธนาธรด้วยเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาถนนบางนา-ตราด (เซ็นทรัลซิตี้) ขีดคร่อมผู้ถือ (A/C PAYEE ONLY) ฉบับลงวันที่ 8 ม.ค. พ.ศ. 2562 สั่งจ่ายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเงินจำนวน 6,750,000 บาทแล้วนั้น
 
ยังไม่อาจเชื่อได้ว่าจะเป็นข้อเท็จจริง โดยยังมีข้อพิรุธมากมายที่สมาคมฯ ต้องนำข้อมูลเพิ่มเติมให้ กกต. ไต่สวน สอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะประเด็นที่นายธนาธรอ้างว่า นางสมพรได้โอนหุ้นต่อไปให้หลาน 2 คน ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2562 แล้ว แต่เหตุใดหลานทั้ง 2 คนจึงโอนหุ้นกลับมาให้กับนางสมพรอีกในวันที่ 21 มี.ค. 2562 จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า นิติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และมีการชำระเงินกันจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการสร้างตัวละคร ให้เป็นข้อมูลหรือพยานหลักฐานขึ้นมาใหม่ เพื่ออำพรางนิติกรรมของตนเอง หรือใช้เป็นข้ออ้างแก้ต่างกรณีถูกจับพิรุธในการประชุมกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 ว่า เหตุใดยังคงมีกรรมการจำนวน 10 คนมาประชุมกัน
 
ทั้งนี้ หาก กกต.ตรวจสอบพบว่าการกระทำของนายธนาธรเข้าข่ายขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) ประกอบมาตรา 42(3) ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.หรือไม่ เพราะกฎหมายห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้งหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน หรือสื่อสิ่งพิมพ์ หากขาดคุณสมบัติดังกล่าวนายธนาธรจะไม่สามารถเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 ของพรรคอนาคตใหม่ได้
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง