วันที่ 12 มี.ค. 62 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค เดินทางลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อช่วยนายประนอม ละอองแก้ว ผู้สมัครเขต 2 จังหวัดสงขลา หาเสียงที่บริเวณหอนาฬิกา ลานจตุรัส นครหาดใหญ่
จากนั้น นายสุวัจน์ พร้อมผู้บริหารพรรค ได้นั่งรถซาเล้งหาเสียงมายังตลาดกิมหยง เพื่อพบปะพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาด โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างมอบดอกไม้ และขอถ่ายรูปกับนายสุวัจน์เป็นจำนวนมาก
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้ภาคใต้ยังมีปัญหาพืชผลราคาเกษตรตกต่ำ พรรคชาติพัฒนาจึงมีนโยบายสร้างนิคมอุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อดึงราคายางและน้ำมันปาล์ม สร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะนอกจากจะต้องดูแลเกษตรกรแล้ว จะต้องมีแนวทางนำสินค้าเกษตรเข้าสู่อุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน ขณะที่การคมนาคมต้องทั่วถึง เพื่อดึงนักลงทุนเข้ามา จึงมีนโยบายรถไฟความเร็วสูง ขยายมอเตอร์เวย์สู่ภาคใต้ เพื่อให้ทัดเทียมทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีนโยบายพัฒนาการท่องเที่ยว โดยวางเป้าหมายให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดิม 40 ล้านคนเป็น65 ล้านคน ภายใน 5 ปี จะเพิ่มรายได้เกือบ 4 ล้านล้านบาท ซึ่งต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการท่องเที่ยว ทั้งถนนและห้องน้ำ รวมทั้งเรื่องความปลอดภัยด้วย
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ลงพื้นที่มาคนใต้ให้การตอบรับที่ดี ส่วนใหญ่คนมองว่าพรรคชาติพัฒนาเดินสายกลาง มีจุดยืนชัดเจนคือไม่สร้างปัญหา ซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ เพราะความขัดแย้งจะกระทบต่อความรู้สึกและความมั่นใจนักลงทุน จึงเชื่อว่า หากการเลือกตั้งเสร็จ และจัดตั้งรัฐบาลได้เรียบร้อย จะสะท้อนว่าการเมืองไทยนิ่งและมีเสถียรภาพ และวันนั้นเศรษฐกิจจะดีมาก
สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองใหญ่ที่สร้างเงื่อนไขที่อาจส่งผลกระทบต่อหลายเหตุการณ์หลังเลือกตั้งนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เมื่อใกล้เลือกตั้ง ก็จะมีการแสดงท่าทีของแต่ละพรรคออกมา พรรคชาติพัฒนาก็มีท่าทีคือขออยู่ตรงกลาง อยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
ส่วนท่าทีของพรรคการเมืองจะเป็นจุดพลิกผันอะไรหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ส่วนตัวขอพูดเฉพาะในส่วนของพรรคชาติพัฒนา ซึ่งพรรคชาติพัฒนาให้ความสำคัญกับความเรียบร้อยทางการเมือง อะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาทางการเมือง เราก็จะพยายามไม่ให้เกิดสิ่งนั้น ขอยืนอยู่ตรงกลาง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ย้ำ เคารพทุกพรรค เพราะทุกพรรคก็เสนอนโยบายที่เหมาะกับพี่น้องประชาชน พร้อมยืนยันว่า การผลักดันนโยบายต่างๆ ของพรรคไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า จะได้ส.ส.มากหรือน้อย ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้น ถึงจะขับเคลื่อนได้ เพราะสามารถทำงานในสภาได้ หากมีความตั้งใจ จะกี่เสียงก็ทำงานเพื่อประชาชนได้ สำหรับ ความคาดหวังจำนวน ส.ส.นั้น ขอไม่น้อยกว่าเดิม ขอเลขสองหลัก เพราะเชื่อว่า น่าจะได้ผลตอบรับดีกว่าเดิม
+ อ่านเพิ่มเติม