สุดเศร้า ยายวัย 82 ล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต ตาวัย 89 ทำใจไม่ได้ ผูกคอตายตาม
logo ข่าวอัพเดท

สุดเศร้า ยายวัย 82 ล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต ตาวัย 89 ทำใจไม่ได้ ผูกคอตายตาม

ข่าวอัพเดท : วันที่ 21 ก.พ. 62 เมื่อเวลา 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 6 และเจ้าหน้าที่กู้ภ ตาผูกคอตายฃ,ทำใจไม่ได้,ยายล้มหัวฟาดพื้น

21,972 ครั้ง
|
21 ก.พ. 2562
วันที่ 21 ก.พ. 62 เมื่อเวลา 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 6 และเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิต 2 คน ภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 
 
หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบ นายจรูญ ศิริวัฒน์ อายุ 89 ปี ผูกคอเสียชีวิตด้วยสายไฟที่บริเวณบันไดหน้าบ้าน ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำร่างออกจากบ่วงผูกคอ แต่พบว่านายจรูญเสียชีวิตไปแล้ว และไม่ไกลจากศพนายจรูญมากนัก ภายในห้องครัว ยังพบว่า นางบุญมา ศิริวัฒน์ อายุ 82 ปี เสียชีวิตล้มนอนจมกองเลือดด้วย 
 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยได้เก็บเอาหลักฐานและร่องรอยดีเอ็นเอ ภายในบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินและข้าวของยังคงวางอยู่ตามปกติ รวมถึงภายในห้องครัว ที่ถ้วยจานยังมีร่องรอยการเตรียมอาหารรับประทาน ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้แต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ชุมชนที่พักอาศัยกันในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จักกัน จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีผู้ต้องสงสัยเข้ามาก่อเหตุร้ายหรือไม่อย่างไร
 
จากการสอบตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบว่า มีท่อนเหล็กขนาดความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร ถูกวางไว้บริเวณหลังบ้าน และ มีปลั๊กราง ที่ถูกตัดสายไฟออกอยู่ข้างโทรทัศน์ จึงเก็บไป ว่าเป็นเส้นเดียวกับที่ผูกอยู่กับคอนายจรูญ หรือไม่ 
 
ด้านแพทย์เวร ได้เข้าร่วมตรวจสอบศพบุญมา พบว่า มีบาดแผลที่ศีรษะ ความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำศพทั้ง 2 คน ส่งที่โรงพยาบาลมหาวายาลัยนเรศวร เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งก่อนสรุปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
 
ขณะที่เพื่อนบ้านผู้พบศพนายจรูญ คนแรกบอกว่า ระหว่างที่ตนเองกำลังรดน้ำผักและเดินไปเอามาซัก ก็พบเห็นนายจรูญมีสายไฟคล้องอยู่ที่คอ และนั่งนิ่งอยู่ ตนเองตกใจกลัวมากไม่กล้ามอง จึงได้เรียกเพื่อนบ้านมาช่วยดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้วจริง จึงได้รีบแจ้งญาติๆ นางสุภาพ ยืนยันว่า ทั้งคู่รักกันมาก เมื่อวานนี้ นางบุญมา เป็นคนซักผ้า และให้ นายจรูญ เป็นคนตากผ้า ให้อยู่เลย
 
ด้านหลานผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ทั้งคู่รักกันมาก ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพมหานครมานาน และได้กลับมาสร้างบ้านอยู่ด้วยกันที่นี่ได้ประมาณ 2 ปี แล้ว เวลาจะไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันตลอด ทั้งสองคนก็มีเจ็บป่วยเพียงแค่โรคคนชราเท่านั้น ไม่ได้มีปัญหารุมเร้าใดๆ
 
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งสองคนได้ เพราะยังต้อรอผลพิสูจน์หลักฐานที่จะนำส่งให้มีการตรวจพิสูจน์ และการชันสูตรพลิกศพ ก่อนที่จะนำส่งศพให้ญาติเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง