ศูนย์ดำรงธรรมยุคใหม่ ส่ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จิตอาสา ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน รับเรื่องร้องทุกข์ถึงหน้าบ้าน
จากกรณีนายกรัฐมนตรีนำ คณะรัฐมนตรีสัญจรลงพื้นที่พบปะประชาชนทั่วประเทศ มักมีกลุ่มมวลชนพยายาม ขอเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนนายกฯ แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัด จนเกิดเหตุบานปลาย มีการจับกุม 16 แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 60 และอีกหลายๆ จังหวัด ส่งผลทำให้กระทรวงมหาดไทยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พลเอก อภิรัชย์ คงสมพงษ์ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งยกเครื่องศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศลงพื้นที่พบปะ รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน
ล่าสุดวันนี้(2 พ.ย. 61) ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในนามผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ร่วมกับ ตำรวจ ทหาร และจิตอาสา จัดศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่ พบปะ ชาวบ้านที่มัสยิดดารุลมูญาฮีดีน บ้านร้อยไร่ เขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
นำโดย พันเอก ศุภพงศ์ ทัตตานนท์ ตัวแทน รอง ผอ.รมน.สงขลา พันตำรวจเอก อนุรุธ อิ่มอาบ รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา และ นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ในฐานะเลขานุการศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่ระดับจังหวัด พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมเปิดเวทีรับฟังปัญหาของประชาชน
โดยมุ่งหวังให้การทำงานเป็นไปในลักษณะ “การเดินเข้าหาประชาชน” เพื่อรับฟังความเดือนร้อนและนำไปสู่การแก้ไขด้วยกลไกแบบบูรณาการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการร่วมบูรณาการลงพื้นที่ โดยมีประชาชนมาร่วมให้ข้อมูล ประมาณ 100 คนได้สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นใน 5 ประเด็น เช่น 1 ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะขยายวงมากยิ่งขึ้น 2.ปัญหาการจราจรบริเวณด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ที่มีความคับคั่ง และติดขัดในบางห้วงเวลา 3.รถบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ทำให้ถนนชำรุด 4.การบริการของหน่วยงานภาครัฐ จะต้องถือปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบ และการอำนวยความสะดวกที่แท้จริง อาทิ การจัดตั้งด่าน การเร่งรัดดำเนินคดี ขาดการมีส่วนร่วม และ 5.ปัญหาเรื่องขอที่ดินทำกิน
ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เปิดเผยว่า การลงพื้นที่พบปะประชาชน ร่วมกับตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองถือเป็นครั้งแรก ต่อไปจะมีการวางแผนบูรณาการร่วมกันโฟกัสพื้นที่ห่างไกลให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐได้ง่ายขึ้นและถี่ขึ้น
+ อ่านเพิ่มเติม