สำนักข่าว Daily Mail รายงานข่าวน่าตกใจที่เกิดขึ้นที่ประเทศอียิปต์ กรณีสุนัขจรจัดถูกเจ้าหน้าที่ของทางการฆ่าแล้วโยนซากทิ้งแม่น้ำหรือแม้แต่ปล่อยให้ตายเกลื่อนริมถนน เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์ออกมาแสดงความไม่พอใจและต่อต้านมาตรการดังกล่าว
*** มีภาพที่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ***
ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รัฐบาลอียิปต์ได้ออกมาเตือนประชาชน โดยอ้างกฎหมายฟัตวาที่ประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2007 กรณีอนุญาตให้สามารถฆ่าสุนัขที่เป็นอันตรายได้ สืบเนื่องจากปัญหาสุนัขจรจัดที่มีมากถึง 22 ล้านตัว ได้ก่อความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเมื่อปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตจำนวน 65 ราย
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลได้ดำเนินแผนควบคุมการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าด้วยการฉีดวีคซีนในพื้นที่ชนบท ส่วนสุนัขกลุ่มที่ถูกคัดทิ้งจะถูกฆ่าตายประมาณ 80 ตัวต่อสัปดาห์ โดยการให้สัตวแพทย์วางยาพิษในอาหารและนำไปให้สุนัขกิน
ขณะที่บางส่วนถูกยิงทิ้ง ซึ่งการยิงเพียงนัดเดียวทำให้สุนัขได้รับความทุกข์ทรมานมากกว่าจะสิ้นใจตาย ส่วนซากของสุนัขจะถูกนำไปฝังในสถานที่ปลอดภัย แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่าร่างของสุนัขที่ถูกฆ่าปรากฏอยู่ตามท้องถนนทั่วเมือง
ภายหลังภาครัฐดำเนินนโยบายดังกล่าว ความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนมาตรการนี้ และยังมีรัฐมนตรีบางรายเสนอให้นำเนื้อสุนัขส่งออกไปขายที่เกาหลี ท่ามกลางเสียงโจมตีของนักเคลื่อนไหวที่มองว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์
ทั้งนี้ภายหลังคลิปวิดีโอและภาพของสุนัขที่ถูกฆ่าทิ้งเผยแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดีย ประชาชนจำนวนไม่น้อยพากันตระหนักถึงความโหดร้ายป่าเถื่อน แต่ก็ยังเห็นความจำเป็นของการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า จึงเสนอให้รัฐบาลใช้นโยบายที่มีเมตตาต่อสัตว์มากกว่านี้ ซึ่งกลุ่มนักเคลื่อนไหวเสนอให้ทางการใช้วิธีทำหมันสุนัขจรจัด เพื่อลดการแพร่พันธุ์ แทนที่จะฆ่าทิ้งอย่างที่เป็นอยู่