ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการเข้ายื่นหนังสือ ให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มทุจริตเงินอบรมผู้พิการ 8 คน ที่กำลังจะลงเล่นทางการเมือง พบมูลค่าความเสียหายกว่า 130 ล้านบาท พร้อมโต้แย้งข้อมูลกระทรวงแรงงานที่นะบุว่ามีความเสียหาย 40 ล้านบาท และ เตรียมหน้าร้อง ปปท.ให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ เข้ายืนเอกสารหลักฐาน ต่อร้อยตำรวจเอกไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรมสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มขบวนการที่ร่วมทุจริตเงินสนับสนุนคนพิการ ตามมาตรา 33 และ 35 จำนวน 5-8 คน โดยแบ่งเป็นคนพิการ 5 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ 3 และยังพบข้อมูลว่าคนกลุ่มนี้เตรียมลงเล่นการเมือง
โดยกลุ่มนี้ มีการจัดการอบรมโครงการต่างๆให้แก่ผู้พิการ โดยการนำเงินสนับสนุนจากสถานประกอบการภาคเอกชนมาจัดอบรม แต่การอบรมไม่เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติกำหนด ที่ว่าจะต้องจัดอบรมจำนวน 6 เดือนในหลักสูตรต่างๆ แต่กลับจัดอบรมเพียงแค่ 3 เดือน ซึ่งมีการจัดอบรม และทำผิดข้อกำหนดมาแล้วหลายครั้งในหลายจังหวัด ซึ่งการทุจริตเงินที่สนับสนุนการอบรมนั้น นายปรีดาระบุว่า มีมูลค่ามากกว่า 130 ล้านบาท ไม่ใช่ 14 ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงาน แถลงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งการทุจริตดังกล่าวนั้นทำให้กลุ่มคนพิการไม่ได้รับเงินเบี้ยงเลี้ยงและอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ
ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบการทุจริตไปแล้วใน 15 จังหวัด และจะมีผู้พิการอีกกว่า 40 คนที่ถูกละเมิดเตรียมร้องเรียนมายังเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ และนายปรีดา จะนำเอกสารหลักฐานต่างๆ เหล่านี้ไปยื่นให้กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปปท. ให้ตรวจสอบข้าราชการที่เกี่ยวข้อง -ขณะที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ทางเครือข่ายจะเข้าไปให้ข้อมูล และนำเอกสารหลักฐานเข้าไปชี้แจงเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการพิเศษ ของสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ หรือ พก. เพิ่มเติม เพื่อชี้ให้เห็นว่ามีมูลค่าความเสียหายในวงกว้าง
+ อ่านเพิ่มเติม