แม่ช็อก ลูกสาวพิการทางสมอง ตาบอด-เป็นใบ้ ถูกเด็กชายวัย 12 ใช้มีดกรีดแขนขาเป็นแผลเหวอะ!
วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังห้องในซอยสายลวด 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังจากที่การโพสต์ข้อความและรูปภาพบนเฟซบุ๊กว่าลูกสาววัย 18 ปี ที่ป่วยพิการทางสมอง ตาบอด และพูดไม่ได้ที่ไปจ้างข้างบ้านเลี้ยง แต่ถูกเด็กชายวัย 12 ปีทำร้ายด้วยการกรีดแขน ขา เป็นแผลเหวะหวะ จนต้องพาไปเย็บแผลที่โรงพยาบาล
นางสาวสุภาภรณ์ หลิวเจริญ อายุ 46 ปี แม่ของนางสาวรัตน์ อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยพิการทางสมอง ตาบอด และพูดไม่ได้ตั้งแต่อายุไม่ถึง 1 เดือน โดยน้องรัตน์ มีบาดแผลที่ถูกกรีดด้วยมีดที่บริเวณต้นขาขวาและที่ต้นแขนขวาหลายแห่ง ซึ่งแพทย์ต้องทำการเย็บบาดแผลให้และใช้ผ้าก๊อตพันปิดทับเอาไว้
โดยนางสาวสุภาภรณ์ เล่าว่า ตนทำงานรับจ้างทั่วไป และอาศัยอยู่กับลูกสาวพิการเพียงลำพังมานานหลายปีแล้ว ปกติช่วงเช้าก็จะออกไปทำงานรับจ้างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูน้องรัตน์ ช่วงเช้าก่อนออกไปทำงานก็จะนำน้องรัตน์ไปฝากข้างบ้านดูแล
กระทั่งเที่ยงคืนวันเสาร์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา หลังจากตนกลับมาถึงบ้านเก็บของเสร็จจึงได้เดินไปรับน้องรัตน์ ที่ฝากเลี้ยงไว้กับเพื่อนบ้าน และพบว่าลูกสาวมีบาดแผลคล้ายถูกกรีดด้วยของมีคมที่บริเวณขาขวา จึงไปคุยกับเพื่อนบ้านที่ไปฝากเลี้ยง จนทราบว่าผู้ที่กระทำนั้นคือบุตรชายของเพื่อนบ้านที่ฝากเลี้ยงวัย 12 ปี เหตุที่ต้องทำนั้น เด็กผู้ชายที่ก่อเหตุอ้างว่าน้องรัตน์ไม่ยอมกินข้าวเลยเอามีดมากรีดที่แขนขา
เมื่อทราบข้อเท็จจริงและเห็นแผลเพียงที่ขาเท่านั้น ตนจึงกลับบ้านมากระทั่งเช้า จึงออกไปทำงาน เพราะมีงานค้างอยู่ที่ กระทั่งเมื่อช่วงสายของวันที่ 30 กันยายน น้องสาวตนมาเห็น แผลลักษณะถูกกรีดด้วยของมีคมที่แขนลูกสาวอีกหลายแห่ง จึงถ่ายรูปส่งไลน์ให้ญาติพี่น้องดู จากนั้นจึงได้รีบพาน้องรัตน์ไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เบื้องต้นทราบว่าลูกแพทย์ได้เย็บ แผลที่แขนขวา จำนวน 3 แผล ประมาณ 30 เข็มขาขวา 20 เข็ม ก่อนที่ลูกสาวคนโตของตนได้เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ แล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
นางสุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านคนดังกล่าวแล้วแต่ก็ยังไม่ได้มีการตกลงอะไรกัน ส่วนเรื่องของคดีตนก็คงต้องปล่อยตามกนะบวรการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ตนก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นคนทำกันแน่ ซึ่งต้องรอผลการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่และผลตรวจจากโรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามตนอยากร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ช่วยเหลือลูกสาวของตนในระยะยาว เนื่องจากตนเช่าห้องอยู่กับลูกสาว กับลูกสาวเพียงลำพัง 2 คน หากวันไหนตนมีงานรับจ้าง ก็จะต้องนำลูกไปฝากเพื่อนบ้านเลี้ยงวันละ 300 บาท ส่วนตนไปรับจ้างได้ค่าแรงวันละ 700 บาท แต่ก็ไม่ได้มีงานรับจ้างทุกวัน จึงอยากวอนให้ทางรัฐฯเข้าช่วยพาลูกสาวของตนไปบำบัด หรือดูแลรักษา ให้ช่วยตัวเองได้มากกว่านี้ เพื่อที่ตนเองจะได้ออกทำงานรับจ้างมาใช้จ่าย และใช้หนี้อีกกว่า 3 หมื่นบาทที่ไปยืมเพื่อนบ้านมาและยังมีค่าเช่าห้องที่ยังค้างอยู่อีกกว่า 1 หมื่นบาท
ขณะที่นางจำรัส อายุ 78 ปี เพื่อนบ้านที่นางสุภาภรณ์ นำน้องรัตน์ไปฝากเลี้ยงไว้ โดยนางจำรัส เล่าว่า ปกติวันที่แม่ข้องน้องรัตน์ไม่ได้ไปทำงานก็จะนำน้องรัตน์มาฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านของตน โดยทุกครั้งจะมีลูกสะใภ้เป็นคนดูแล เนื่องจากตนอายุมากแล้วที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดปัญหาอะไร
จนกระทั่งวันเกิดเรื่อง นางสาวมาลี ได้ออกไปทำธุระนอกบ้านโดยให้น้องรัตน์นอนพักอยู่ในห้อง จนกระทั่งกลับลูกสะใภ้กลับมาในช่วงเย็นตนถึงได้รู้ว่าน้องรัตน์ มีแผลที่ขาและแขนและทราบว่าหลานชายเป็นคนก่อเหตุ โดยน้องแมน (นามสมมุติ) วัย 12 ปี ซึ่งก็ได้ยอมรับว่าเป็นคนลงมือเองเนื่องจากพี่รัตน์ไม่ยอมทานข้าว จึงเกิดอาการโมโห ใช้มีดทำครัวมากกรีดแขนขาพี่รัตน์
ทางด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เอี่ยมนุ้ย ผกก.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับใครเนื่องจากยังไม่ได้มีการสอบปาคำขอทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะต้องรอสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง