พร้อมสู้คดี! อุ้มหนุ่มพิการอ้างตัวเป็นฤาษีเข้ามอบตัว ปัดข่มขืนสาว 17 ลั่น "ช่วยเหลือตนเองยังไม่ได้ แล้วจะข่มขืนได้อย่างไร"
logo ข่าวอัพเดท

พร้อมสู้คดี! อุ้มหนุ่มพิการอ้างตัวเป็นฤาษีเข้ามอบตัว ปัดข่มขืนสาว 17 ลั่น "ช่วยเหลือตนเองยังไม่ได้ แล้วจะข่มขืนได้อย่างไร"

ข่าวอัพเดท : ศรีสะเกษ-จากกรณี พ่อแม่ของ น.ส.เอ ได้นำตัว น.ส.เอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.หญิง ศิรินทรา บุญธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเก หนุ่มพิการ,หนุ่มพิการข่มขืน,พิการข่มขืนสาว

8,072 ครั้ง
|
31 ส.ค. 2561
ศรีสะเกษ-จากกรณี พ่อแม่ของ น.ส.เอ ได้นำตัว น.ส.เอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.หญิง ศิรินทรา บุญธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ว่า น.ส.เอ บุตรสาวของตนถูกชายที่อ้างตัวว่าเป็นฤาษีตาไฟ จะทำการสะเดาะเคราะห์ให้ โดยพากันไปทำพิธีที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ข้างถนนสายศรีสะเกษ – ขุขันธ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยใช้เวลาสะเดาะเคราะห์ 2 วัน และชายที่อ้างตัวว่าเป็นฤาษีได้ทำการข่มขืน น.ส.เอ รวม 4 ครั้ง เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับชายที่อ้างตัวว่าเป็นฤาษีตาไฟจนถึงที่สุด
 
  เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายปัญญา วงศ์เจริญ ผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วย นางวนิดา พลศักดิ์ อายุ 62 ปี และญาติพี่น้องได้พากันอุ้มตัว นายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ อายุ 40 ปี ซึ่งสภาพร่างกายป่วยพิการ เป็นโรคโปลิโอ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้มาตั้งแต่เกิดและเป็นผู้อ้างตัวว่า เป็นฤาษีตาไฟ ผู้ต้องหาคดีนี้ ขึ้นบนหลังญาติเดินขึ้น สภ.เมืองศรีสะเกษ มาพบกับ ร.ต.อ.สง่า สมสุข และ ร.ต.ท.หญิง ศิริทรา บุญธรรม ทีมพนักงานสอบสวนคดีนี้ เพื่อเข้ามอบตัวสู้คดีที่ถูกกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 2 ข้อหาคือ พรากผู้เยาว์เด็กอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา และข่มขืนกระทำชำเราแม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่งนายสุรสิทธิ์ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
 
 นายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ อายุ 40 ปี หนุ่มพิการอ้างตัวว่าเป็นฤาษีตาไฟ ให้การด้วยเสียงกระท่อนกระแท่นว่า ในวันเกิดเหตุ ได้มีญาติพี่น้องของ น.ส.เอ มานิมนต์ให้ตนไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้รีสอร์ตแห่งหนึ่ง โดยมารับตนจากบ้านที่เป็นของลูกศิษย์คนหนึ่งที่ อ.ภูสิงห์ จากนั้น ตนได้ใช้เวลาทำการสะเดาะเคราะห์ 2 วัน โดยการลงอักขระและเขียนคาถาสะเดาะเคราะห์ ไม่ได้มีการข่มขืน น.ส.เอ แต่อย่างใด เนื่องจากว่า ตนช่วยเหลือตนเองยังไม่ได้เลย จะไปทำการข่มขืน น.ส.เอ ซึ่งมีร่างกายปกติสมบูรณ์ได้อย่างไร ตนขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
 
 ทางด้าน นายปัญญา วงศ์เจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านละทาย ต.ทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนรู้จักกับนายสุรสิทธิ์ เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นลูกบ้านของตน โดยนายสุรสิทธิ์ ป่วยเป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่เกิด ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้ และต่อมาพออายุ 17 ปี นายสุรสิทธิ์ จะมีอาการเหมือนกับมีอดีตเจ้าอาวาสของวัดบ้านละทายที่มรณะภาพไปแล้วหลายรูป มาเข้าร่างเพื่อให้นายสุรสิทธิ์ เป็นร่างทรงของฤาษีตาไฟ ทำให้มีคนรู้เรื่องนี้จำนวนมาก และได้มีประชาชนจาก จ.ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษและร้อยเอ็ด ที่มีความเชื่อในเรื่องนี้ พากันมาขอให้นายสุรสิทธิ์ทำพิธีสะเดาะเคราะห์และรักษาอาการไข้ป่วยหายเป็นปกติไปจำนวนมาก โดยนายสุรสิทธิ์ จะไม่มีการเรียกร้องเงินทองในการทำพิธี แต่จะให้จัดขันนิมนต์ ขัน 5 ดอกไม้ธูปเทียน และเงินค่าทำพิธีคนละ 49 บาท 99 บาทและ 199 บาท เมื่อผู้ป่วยหายจากอาการป่วยแล้ว ก็จะมีการสมนาคุณให้ตามที่จะเห็นสมควร และล่าสุดมีการนิมนต์นายสุรสิทธิ์ไปทำพิธีที่บ้านลูกศิษย์คนหนึ่งที่ อ.ภูสิงห์ จนเกิดมีการกล่าวหากันในครั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่า นายสุริสิทธิ์ จะทำการข่มขืน น.ส.เอ เนื่องจากว่า นายสุรสิทธิ์ ป่วยเป็นโรคโปลิโอช่วยตนเองไม่ได้มาตั้งแต่เกิดแล้ว จะไปข่มขืน น.ส.เอ ได้อย่างไร