ตร ศปจร.น รวบเครือข่ายแท็กซี่ปลอมแปลงเอกสารราชการ โดยสวมทะเบียนรถแท็กซี่ตระเวนหาผู้โดยสารที่สุวรรณภูมิ และ ตามโรงแรมทั่วไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยึด รถแท็กซี่สีเขียวเหลือเป็นของกลางหลังร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายปลอมเอกสารทางราชการ คือ นายเทวพร ใจดิ,นายวิเชษฐ์ เก๊กฮั้ว,นายปรีชา เก๊กฮั้ว,นายชยาทิต คฤหโยธิน และ นายอรุณ บัวอุการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการขยายผลจับกุม นายอภิวัตร เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มปลอมแปลงเอกสารแผ่นภาษีประจำปี สมุดคู่มือรายการจดทะเบียนรถยนต์ แผ่นป้ายทะเบียนปลอม จนพบว่ายังมีกลุ่มขบวนการทำการสวมทะเบียนรถแท็กซี่และปลอมแปลงเอกสารที่ผิดกฎหมายออกรับจ้างส่งผู้โดยสาร ประชาชนทั่วไป รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากสนามบินสุวรรณภูมิ และตามโรงแรมต่างๆ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของรถแท็กซี่มคันที่โดนสวมทะเบียน
จนเมื่อวันที่ 15 ส.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย พร้อมรถแท็กซี่ 3 คันในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย และสน.ดินแดงและในวันที่ 16 สิงหาคม 2561 สามารถจับกุมผู้ต้องหา เพิ่มอีก 2 ราย พร้อมรถแท็กซี่สองคันในพื้นที่ สน. บางซื่อ
โดยปกติกรมขนส่งทางบก จะออกใบอนุญาติ ให้แท็กซี่ขับขี่ได้ 9 ปีและต้องเปลี่ยนเป็นรถบ้านทันที แต่บางรายไม่ยอมเปลี่ยน ติดต่อเครือข่ายปลอมแปลงสวมทะเบียนรถแท็กซี่จริง หรือติดต่อซื้อขายทะเบียนจากเจ้าของรถ หรือ บริบัทรถแท็กซี่ คันบะ 3-5 หมื่นบาท เพื่อให้บริการได้ใหม่ โดยภายในรถสภาพเก่า แต่ด้านนอกดูใหม่ ซึ่งรถที่หมดอายุนี้เป็นภัยต่อสังคม เพราะหากผู้ขับขี่นำไปก่อเหตุอาชญากรรมจะจับกุมได้ยาก เนื่องจากทะเบียนรถปลอม อีกทั้งส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะเป็นพิษ และจากการตรวจสอบพบรถลักษณะดังกล่าววิ่งอยู่ที่สุวรรณภูมิและในหลายพื้นที่ มากถึง 500 -100 คัน
เบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งหากพบเจ้าของรถหรือบริบัทรถแท็กซี่ซื้อขายทะเบียนจะดำเนินคดีข้อหาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีรถแท็กซี่สวมทะเบียนที่อยู่ในเครือข่ายดังกล่าวอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม