รวบแล้ว! มือฆ่าปาดคอเจ้าของร้านเสริมสวย อ้างตกงาน-หาเงินไปทำคลอด
logo ข่าวอัพเดท

รวบแล้ว! มือฆ่าปาดคอเจ้าของร้านเสริมสวย อ้างตกงาน-หาเงินไปทำคลอด

ข่าวอัพเดท : จากกรณีที่เจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ถูกฆ่าปาดคออย่างโหดเหี้ยมก่อนทิ้งศพไว้หลังร้านโดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเมื่อเวลา 0 ร้านเสริมสวย,ฆ่าปาดคอ,ฆ่าปาดคอเจ้าของร้านเสริมสวย

2,128 ครั้ง
|
10 ก.ค. 2561

จากกรณีที่เจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ถูกฆ่าปาดคออย่างโหดเหี้ยมก่อนทิ้งศพไว้หลังร้านโดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 05.30 น. พ.ต.ท.นาวิน ทองสง่า รอง.ผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางศิวาพร ใจสุข อายุ 31 ปี และ นางสาวกรรณิการ์ ธิริ อายุ 17 ปี พร้อมของกลางเป็นธนบัตรชนิดต่างๆ รวม 6,000 บาท สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 1 บาท กระเป๋าสตางค์สีดำ 1 ใบ และเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่ใส่ก่อเหตุจำนวน 2 ชุด โดยจับกุมนางศิวาพร ได้ภายในอพาร์ทเม้นท์ไม่มีชื่อชั้น และจับกุมตัว นางสาวกรรณิการ์ ได้ภายในกระต๊อบริมวังที่ตั้งอยู่ภายในซอยเกิดเหตุ

 

โดยการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ประชุมวางแผนออกหาข่าวพร้อมเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุมาวิเคาระห์หาบุคคลที่ออกมาจากร้านล่าสุด ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้หญิง 2 คนซึ่งเป็นผู้ต้องหาเดินออกมาจากร้านเมื่อช่วงเวลา 17.23 น.ก่อนที่จะเดินเลี้ยวหายไปข้างตึกแถวที่อยู่ใกล้กัน ก่อนนำกำลังเข้าตรวจสอบพร้อมหาข้อมูลจนทราบว่าหญิงทั้ง 2 คนพักอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่หลังตึกและกระต๊อบริมวังที่อยู่กลางซอยจนกระทั่งตามจับกุมตัวพร้อมของกลางคืนมาได้ทั้งหมด

 

จากการสอบสวน นางศิวาพร ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่าตนได้รู้จักกับนางสาวกรรณิการ์ มาแล้วเกือบ 1 ปี ตอนที่ทำงานเป็นพนักงานฝ่ายผลิตอยู่ในโรงงานผลิตพัดลมแห่งหนึ่งย่านพระสมุทรเจดีย์แต่ตกงานมาแล้วหลายเดือน จนกระทั่งเงินที่มีเก็บหมดลงจึงได้วางแผนทำทีเข้าไปทำผมในร้านของผู้ตาย เมื่อสบโอกาสที่ไม่มีลูกค้าและผู้ตายเผลอจึงใช้มือจิกผมผู้ตายลากไปด้านหลังร้านก่อนที่จะให้นางสาวกรรณิการ์ดูต้นทางพร้อมหามีดมาให้ตนเพื่อข่มขู่ผู้ตายแต่ผู้ตายขัดขืนจึงใช้มีดกระหน่ำแทงเข้าไปที่ร่างผู้ตายหลายแผลจนล้มลง ก่อนที่จะใช้มีดเล่มดังกล่าวปาดที่ลำคอผู้ตายจนเสียชีวิตแล้วช่วยกันค้นตัวล้วงเงินสดไปจำนวน 6,000 บาทพร้อมปลดสร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาทติดมือไปด้วย

 

หลังจากนั้นจึงรีบเดินออกไปจากร้านในท่าทางปกติเหมือนไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้น และเข้าไปหลบอยู่ในห้องพักที่ห่างจากร้านเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พร้อมแบ่งเงินกันส่วนทองจะนำไปขายในวันรุ่งขึ้นและแบ่งเงินส่วนที่เหลือพร้อมแยกย้ายกันหนี แต่มาถูกจับก่อน ซึ่งที่ทำลงไปเพราะสงสารนางสาวกรรณิการ์ ที่ตกงานและกำลังตั้งครรภ์อยู่ 5 เดือน เพื่อจะนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวและเป็นเงินในการคลอดลูก

 

ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป