นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงกรณีการตามหาเด็กนักฟุตบอลและโค้ชที่หายไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมาว่า
เช้าวันนี้ หน่วยซีลทีมแรกเข้าไปในโถงกลาง และศึกษาภูมิประเทศบริเวณดังกล่าวครึ่งชั่วโมงแล้วกลับออกมา จากนั้นทีมที่สองก็นำน้ำและอาหารเข้าไป ภูมิประเทศนี้มีความสูงต่ำ มีน้ำเป็นระยะ ต้องใช้ความชำนาญอย่างยิ่ง มีผู้ต้องการให้การสนับสนุนเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด จึงต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น คาดว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าถึงถึงจุดสุดท้ายภายในเย็นนี้
สิ่งที่ยังกังวลคือฝนฟ้าที่ยังตกลงมาปรอยๆ ทำให้ระดับน้ำเอ่อสูง การเข้าไปทำด้วยความยากลำบาก ต้องใช้ถังออกซิเจน ซึ่งมีการปรึกษาหารือกันว่าหากมีการเจอผู้ประสบเหตุ ก็จะมีแจ้งขึ้นมา และอาจจะต้องให้เด็กใช้อุปกรณ์ดำน้ำ หรืออาจจะให้ทางโยธา หรือทางหน่วยป้องกันภัยเตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อพร่องน้ำช่วยด้วย ถ้าระดับน้ำสูงเกินไปก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะนำเด็กออกมา
ส่วนร่องรอยระหว่างทางหรือตามผนังถ้ำก็มีอยู่ เช่น เชือก รอยฝ่ามือต่างๆ ตอนนี้คาดว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปได้ค่อนทางแล้ว เหลือเพียง 2 กิโลเมตร เพียงแต่เป็น 2 กิโลเมตรที่ไม่ใช่ทางราบ มีทั้งทางเรียบ และทางที่ต้องดำน้ำ
ขณะนี้ตนเชื่อว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ เพราะยังไม่เจอสัญญาณที่ไม่ดี จุดที่คาดว่าเด็กจะอยู่คือจุดที่ปล่องสูงราว 70 เมตร ซึ่งพอมีอากาศหายใจ แต่เจ้าหน้าที่ยังไปไม่ถึงตรงนั้น ยืนยันว่าทางเข้าออกถ้ำมีทางเดียว แต่ยังมีที่ปลอดภัยอยู่บางส่วน ตนมั่นใจว่าเด็กจะอยู่ตรงโถงกลางเพราะไม่มีเส้นทางอื่นแล้ว หากเดินทางไปเรื่อยๆ ยังไงก็ต้องเจอ ตนก็หวังเหมือนทุกคน ทุกคนก็หวังว่าจะเห็นเด็กปลอดภัย และใจจดใจจ่อรอกันอยู่ ก็ได้เรียนผู้ว่าฯเชียงราย และปลัดกระทรวงมหาดไทยถึงความคืบหน้าที่เกิดขึ้นไปแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม