ศาลปกครองกลางนัดพิจารณาคดีครั้งแรกกรณีป้าทุบรถฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมกานครและเขตประเวศ ปล่อยให้สร้างตลาด 5 แห่งรอบบ้านพัก ศาลมีคำสั่งให้ กทม รื้อถอนตลาดทั้งหมดและจ่ายค่าชดเชยรายละ กว่า 3 แสนบาท
ศาลปกครองกลาง องค์คณะแผนกคดีสิ่งแวดล้อม เจ้าของสำนวนคดีตลาดหมู่บ้านเสรีวิลล่า นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำ ส.1/2555 ที่ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ ผู้ที่พักอาศัยในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ย่านสวนหลวง ร. 9 และผู้ที่อาศัยในหมู่บ้านด้วยรวม4 คน ได้ยื่นฟ้อง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , ผอ.เขตประเวศ , สำนักงานเขตประเวศ และกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 ข้อพิพาทเรื่องหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และกระทำละเมิดจากการละเลยต่อหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติอย่างล่าช้า
กรณีให้มีการก่อสร้างอาคารและตลาด 5 แห่งโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้พื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยกลายเป็นที่จอดรถและเป็นกรณีที่ผิดวัตถุประสงค์ของหมู่บ้านเสรีวิลล่า บริเวณสวนหลวง ร.9 ซึ่งได้จดทะเบียนจัดสรรเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงและก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้ฟ้องคดี โดยคดีนี้ผู้ประกอบการตลาดสวนหลวง , ตลาดรุ่งวานิชย์ , ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา" ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับข้อพิพาทนั้น ได้เข้ามาเป็นผู้ร้องสอดที่ร่วมนำเอกสารหลักฐานแสดงให้ศาลร่วมพิจารณาด้วย
ขณะที่คดีกลุ่มผู้ฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างตลาด และให้หน่วยงานทางปกครองเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการประกอบกิจการตลาดในหมู่บ้านผู้ฟ้อง ศาลปกครองกลาง พิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวน ประกอบข้อกฎหมายแล้ว เห็นว่า การยื่นขอก่อสร้างอาคารและตลาด 5 แห่งบริเวณข้างบ้านผู้ฟ้องทั้งสี่ในหมู่บ้านเสนีวิลล่า และการอนุญาตให้สร้างนั้นผิดวัตถุประสงค์การจัดสรรที่ดินในโครงการที่ให้ก่อสร้างเพื่อที่พักอาศัยเท่านั้นไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์
ศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งการอนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้าง และ กทม. ผู้ถูกฟ้องที่ 4 ต้อชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ฟ้อง 4 รายๆ ละ 368,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที 30 ก.ย.56 ที่มีการแก้คำฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชดใช้หลังจากคดีนี้มีคำพิพากษาถึงที่สุด และให้ ผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ ปี 22 ให้จัดการอาคารตลาดทั้ง 5 แห่งภายใน 30 วันนับแต่คดีที่สุด และ ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขปี 2535 กวดขันไม่ให้มีหาบเร่แผงลอยบนทางเท้าในหมู่บ้านด้วย และให้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวมีผลบังคับอยู่ต่อไปจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยคำพิพากษาวันนี้ มีความยาว 114 หน้า พิจารณารวม 5 ประเด็น
นางสาวบุญศรีกล่าวภายหลังการฟังคำพิพากษาว่ารู้สึกสบายใจที่ได้ความสงบสุขคืนมา และอยากให้กทม.ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาล และส่วนค่าเสียหายที่จะได้รับรู้สึกดีใจที่ศาลเห็นใจไม่ว่าเงินจะมากหรือน้อยก็ตาม และให้ความเป็นธรรมส่วนกทม. จะยื่นอุณธรณ์ต่อสู้ต่อหรือไม่นั้นอยากให้ กทม.พิจารณาว่ามันไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัย ส่วนป้ายหน้าหน้าบ้านยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการรื้อออกและอาจจะนำคำพิพากษาในวันนี้ไปติดเพิ่มเติม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม