'เก๋ ลอนดอน' สารภาพกุเรื่องโดนแท็กซี่ทำร้ายและชิงทรัพย์เหตุเครียดหนัก ขอโทษชาวแท็กซี่-ตร.-สังคม
logo ข่าวอัพเดท

'เก๋ ลอนดอน' สารภาพกุเรื่องโดนแท็กซี่ทำร้ายและชิงทรัพย์เหตุเครียดหนัก ขอโทษชาวแท็กซี่-ตร.-สังคม

ข่าวอัพเดท : เสื้อผ้า กระเป๋า และอุปกรณ์กันคิ้ว คือของกลางที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาลลาดพร้าวยึดไว้เป็นหลักฐาน เป็นของผู้หญิงที่อ้างว่าถูกผู้ขับรถแท็ เก๋ ลอนดอน,กุเรื่อง,แท็กซี่,ทำร้ายร่างกาย,ชิงทรัพย์

54,945 ครั้ง
|
22 ก.พ. 2561
เสื้อผ้า กระเป๋า และอุปกรณ์กันคิ้ว คือของกลางที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาลลาดพร้าวยึดไว้เป็นหลักฐาน เป็นของผู้หญิงที่อ้างว่าถูกผู้ขับรถแท็กซี่โดยสารทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ 
 
 
ตำรวจนครบาลลาดพร้าวชี้แจงคดีนี้ว่า ผู้อ้างว่าตกเป็นผู้เสียหายคือ นางสาวทองประกาย สุขศรีราษฎร์ หรือ 'เก๋ ลอนดอน' เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนอ้างว่าถูกผู้ขับรถแท็กซี่โดยสารทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ ขณะเดินทางกลับที่พักย่านเสรีไทย ภายหลังจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดาเมื่อวานนี้ และอ้างว่าถูกชิงทรัพย์เป็นกระเป๋ายี่ห้อดังภายในมีเงินสดจำนวน 14,000 บาท บัตร เอทีเอ็ม 1 ใบ ก่อนจะขับรถหลบหนีเมื่อคืนที่ผ่านมา 
 
พันตำรวจเอก ภาสกร รัตนปนัดดา ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุ หน้าที่พักของนางสาวทองประกาย ไม่พบเหตุการณ์ตามที่กล่างอ้าง ประกอบพยานในที่เกิดยืนยันตรงกันว่า นางสาวทองประกายไม่ได้ถูกทำร้ายจริง
 
ขณะที่น.ส.ทองประกายระบุถึงเหตุผลที่กุเรื่องและลงมือทำร้ายตนเองด้วยมีดโกนว่า เป็นเพราะตนเครียดมากมาหลายวันและไม่อยากอยู่คนเดียว เครียดเรื่องครอบครัว เรื่องลูก เรื่องเงิน และอีกหลายๆเรื่องที่ผ่านมา บางเรื่องก็พูดให้ใครฟังไม่ได้ วันนั้นที่ไปเที่ยว ไม่ได้กินเหล้า ไม่ได้เสพยาแต่อย่างใด
 
"ด้วยความที่เครียดเรื่องลูก หนึ่ง แม่ต้องดูแลลูก สอง ยายมาขาหัก เข้าโรงพยาบาลครั้งที่สอง ซึ่งแม่ต้องไปดูแลยาย และก็ไม่มีใครดูแลลูก มันก็เลยเครียดเรื่องเงินด้วย เครียดเรื่องลูกด้วย ถ้าไม่มีคนดูแลลูก แล้วเราไปดูแลลูกแทน แล้วใครจะหาเงินให้ลูก มันมีหลายเหตุผลหลายความเครียดที่เก๋สะสมมาคนเดียวโดยที่ไม่สามารถระบายให้ใครฟังได้แม้แต่แม่ตัวเองเพราะกลัวแกคิดมาก" น.ส.ทองประกายระบุ
 
น.ส.ทองประกายกล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ยิ่งเครียดกว่าเดิม  ที่เรื่องบานปลายเพราะเพื่อนคิดว่าเป็นเรื่องจริงแล้วพาไปแจ้งความ ซึ่งตนทำแบบนี้เป็นครั้งแรก ยอมรับว่าตนไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านรัชดาจริง แต่ตลอดทุกครั้งที่ตนไปเที่ยว จ่ายเงินสดตลอด ไม่เคยติดหนี้ร้าน ตนยอมรับว่าช่วงที่ลงมือทำร้ายตนเองไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น การทำร้ายตนเองไม่เกี่ยวกับการติดหนี้เพราะระหว่างติดหนี้ก็คุยกับเพื่อนตลอด
 
ทั้งนี้น.ส.ทองประกายได้กล่าวขอโทษผู้ขับรถแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน ผู้สื่อข่าวที่เกาะติดเรื่องนี้มาตลอด ตลอดจนสังคม พ่อ แม่ พี่น้องและคนรอบข้างที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นด้วย 
 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวทองประกาย 2 ข้อหา คือแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และข้อหานำเข้าข้อความอันเป็นเท็จตามพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ฝากเตือนประชาชนด้วยว่าอย่าคิดง่ายๆ อย่าคิดว่าจะไม่มีอะไร ทุกอย่างที่ทำมีผลย้อนกลับมาเสมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง