ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มที่สำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีความผิด นอกราชอนาจักร แต่ต้องรับโทษในประเทศไทย ที่สำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ่อทอง และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกันสอบปากคำเพิ่มนางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือครูอ้อย เข็มทิศชีวิต กับพยานอีก 2 ปาก ที่เป็นโจย์ยื่นฟ้องนางสาวรสสุคนธ์ กองเกตุ หรือครูเงาะ ความผิดฐานกรรโชกทรัพย์, รีดทรัพย์จำนวน11ล้านบาท และหมิ่นประมาท และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานเพิ่มของการประกอบสำนวน ที่จะเป็นตามขบวนการในชั้นสอบสวนว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง
โดยทางครูอ้อย ได้เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ถึงคดีที่ครูเงาะ ที่ทำให้เกิดความเสียหาย และถูกกรรโชกทรัพย์ 11 ล้านบาท เพื่อให้สำนวนการสอบสวนเดินหน้าต่อ อย่างไรก็ตามไม่ได้คิดโกรธครูเงาะซึ่งเป็นลูกศิษย์ ยังคงความปรารถนาดีอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ตนอยากทำตามขั้นของกฎหมาย
ด้านนายชิงชัง โชติแสง อัยการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่าสำหรับการที่ครูอ้อยได้เดินทางมาให้ปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี แทนที่จะเดินทางไปสถานีตำรวจภูธรบ่อทอง จังหวัดชลบุรีนั้น เนื่องจากคดีนี้ถือเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร แต่มีความผิดในประไทย ต้องรับโทษในประเทศไทย เพราะคุ่กรณีทั้งคู่เป้นคนไทย เพียงแต่เวปไซค์ที่เข้าหมิ่นประมาท มีการจดทะเบียนต่างประเทศ ดังนั้นผู้ที่มีแนวทางสอบสวนอัยการสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งทางอัยการสูงสุดจึงได้มีการมอบหมายให้ทางผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบ่อทอง ส่งพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำเพิ่มเติมร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี โดยที่ทางครูอ้อยได้มีการเปรยขอความเป็นธรรม โดยที่ตนได้บอกไปจะให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่ายหากฝ่ายใดคิดว่ามีหลักฐานเป็นประโยช์แก่ตนเองก็นำมาแสดงประกอบได้ ในส่วนของครูเงาะ คาดว่าอีกสองสัปดาห์ก็จะเรียกมาสอบสวนเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม