รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการทำงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญในการเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ เน้นสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยว พร้อมเตรียมดึงผู้บริหารรถไฟดูงานการบริหารระบบรถไฟท่องเที่ยวของฟุกุโอกะ นำมาปรับใช้ในประเทศ ขณะที่การรถไฟฯ เตรียมเสนอขอเพิ่มอัตรากำลังพนักงาน และปรับโครงสร้างค่าโดยสารเพิ่ม ลดภาระหนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการทำงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยระบุว่าจากการตรวจเยี่ยมครั้งที่ผ่านมา เห็นความคืบหน้าการพัฒนาของการรถไฟฯในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมย้ำว่ารัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบรถไฟไทย ให้เป็นระบบขนส่งมวลชนหลักของประเทศในการเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด รวมถึงการผลักดันรถไฟเส้นทางใหม่ ขณะเดียวกันเปิดเผยว่าเตรียมจะเดินทางไปเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นเพื่อศึกษาดูงานการบริหารจัดการรถไฟเพื่อการท่องเที่ยว โดยให้ผู้บริหารการรถไฟฯที่เกี่ยวข้องร่วมคณะด้วย เพื่อนำแนวทางมาปรับใช้กับการบริหารรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวของไทย
นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรี ยังติดตามความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยประเด็นสำคัญที่ การรถไฟฯจะเสนอต่อรองนายกฯ เพื่อขอรับการสนับสนุน ประกอบด้วย ขอยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 41 ที่กำหนดให้สามารถรับพนักงานด้านปฏิบัติการได้ 5% ของพนักงานเกษียณอายุ กรอบอัตรากำลัง 22,068 อัตรา เพื่อให้สามารถรับพนักงานเพิ่มเพื่อรองรับการขยายตัวของเส้นทางรถไฟในอนาคต ซึ่งอัตราพนักงานการรถไฟปัจจุบันมีเพียง 14,175 คนเท่านั้น นอกจากนี้ยังขอให้พิจารณาปรับโครงสร้างค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนปัจจุบัน และลดปัญหาหนี้สินของการรถไฟกว่า 100,000 ล้านบาท โดยโครงสร้างค่าโดยสารใหม่ จะประกอบด้วยค่าแรกเข้า 10 บาท และ ค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้นจากราคาเดิม 50% ตามระยะทาง ซึ่งจะทำให้การรถไฟฯมีรายได้จากค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีก 30% ทั้งนี้การถไฟไม่ได้มีการปรับขึ้นค่าโดยสารตั้งแต่ปี 2528
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รายงานความคืบหน้าและแผนการพัฒนารถไฟไทย ว่า ปัจจุบันเส้นทางรถไฟของไทยมีระยะทางรวม 4,044 กิโลเมตร โดยเป็นรถไฟทางเดี่ยว 3,687 กิโลเมตร , ทางคู่ 250 กิโลเมตร และ สามทาง 107 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 47 จังหวัด โดยมีแผนจะขยายเส้นทางรถไฟทางคู่และเส้นทางสายใหม่ให้ครอบคลุมพื้นที่ 53 จังหวัดภายในปี 2567 และเพิ่มเป็น 61 จังหวัดในอนาคต ภายใต้งบประมาณรวม 501,455 ล้านบาท อย่างไรก็ตามโครงการท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟใน 55 จังหวัดเมืองรอง ขณะนี้มีการดำเนินการไปแล้ว 14 จังหวัด และในอนาคตจะพัฒนาเพิ่มเติมอีก 2 จังหวัด ประกอบด้วย สระแก้ว และ ชลบุรี
+ อ่านเพิ่มเติม