เวิลด์แบงค์ชี้ ปัญหาชาวนาได้รับเงินจำนำข้าวล่าช้า กระทบต่อจีดีพีร้อยละ 1 แนะเพิ่มศักยภาพการผลิต เพื่อสร้างความั่นคงของเกษตรกรในระยะยาว
นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก (เวิลด์แบงค์) ประจำประเทศไทย ยอมรับว่าการที่ชาวนาไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำข้าวรวมประมาณ 1 แสน 2 หมื่นล้านบาท ส่งผลต่อการใช้จ่ายของเกษตรกรให้ชะลอลง ทำให้มีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีลดลงร้อยละ 1
ทั้งนี้ โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ดีที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นและเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนา แต่โครงการนี้ได้ส่งผลให้รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณใน 2 ปีการผลิต รวม 4 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2 ของจีดีพี ดังนั้นเพื่อไม่ให้การดำเนินนโยบายนี้กระทบฐานะทางการคลัง รัฐบาลควรหาแนวทางอื่นมาเป็นปัจจัยเสริมมาเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรแทน อาทิ การพัฒนาพันธุ์ข้าว การพัฒนาระบบชลประทานและปรับปรุงคุณภาพดิน เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวต่อไร่และขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้นอย่างยั่งยืน ส่วนโครงการอื่นๆ ที่จะมีผลต่อหนี้สาธารณะของประเทศ ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ควรจะมีการพัฒนาและการลงทุนเกิดขึ้น เพราะจะส่งผลดีต่อการเติบโตของประเทศอย่างยั่งยืน แต่อย่างไรก็ตามในการดำเนินแต่ละโครงการจะต้องมีความโปร่งใสและคุ้มทุนที่สุด
ธนาคารโลก
เวิลด์แบงค์
กิริฎา
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส
กิริฎาเภาพิจิตร
จีดีพี
จำนำข้าว
การใช้จ่าย
ชะลอตัว