บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทีมมูลนิธิร่วมกตัญญู เคลื่อยย้ายน้องเมย์ น้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ป่วยขาทั้งสองข้างกางออกไม่สามารถหุบได้ ส่งถึงโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทแล้ว ขณะที่แพทย์ต้องเอ็กซเรย์ร่างกายก่อนวินิจฉัยทำการรักษา
หลังจากที่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมกับทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญูนำ นางสาวรัตนาพร พลเทพ หรือ น้องเมย์ อายุ 25 ปี น้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ออกจากบ้านพักชุมชนคลองเตย ล็อค 1,2,3 ถนนอาจณรงค์ โดยใช้วิธีทุบผนังบ้านให้กว้างออกประมาณ 2.50 เมตร เพื่อที่จะได้มีความกว้างพอที่จะยกน้องเมย์ผ่านออกมาได้ ซึ่งการเคลื่อนย้ายได้ใช้เก้าอี้ไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่สำหรับน้องเมย์โดยเฉพาะ เนื่องจากต้องรองรับขาทั้งสองข้างที่กางออก รวมถึงน้ำหนักตัวที่จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด เนื่องจากน้องมีอาการน้ำท่วมปอด ความดัน เบาหวาน และอ็อกซิเจนในเลือดน้อย การเคลื่อนย้ายใช้เวลาประมาณ 30 นาที ต้องเดินผ่านถนนชุมชนแคบๆ ประมาณ 250 เมตร ไปขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ เพื่อมาโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เวลา 11.00 น. หลังจากที่น้องเมย์มาถึงที่โรงพยาบาลก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องของการนำตัวไปยังห้องพักรักษา โดยแพทย์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้ปรึกษาจนได้ข้อสรุปที่จะต้องนำน้องเมย์ขึ้นลิฟท์ที่ตึก 1 ที่รับน้ำหนักได้มาก ขึ้นไปยังทางเดินเชื่อมตึกเพื่อไปยังห้องไอซียู ของตึก 2 เพื่อให้แพทย์ตรวจดูอาการ จากการพูดคุยกับน้องเมย์ ระบุว่า ตอนนี้รู้สึกตื่นเต้น ส่วนอาการเจ็บปวดก็ยังมีอยู่ แต่ก็พยายามที่จะให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายได้ง่ายที่สุด ส่วนอาการกลัวเข็มฉีดยาที่ทำให้ก่อนหน้านี้ไม่ยอมเข้ามาทำการรักษานั้น ต่อจากนี้ก็จะต้องพยายามไม่กลัวและรักษาจนหาย
ด้านนายแพทย์ทวีศักดิ์ ภูริเวทคุณากร แพทย์ศัยลกรรมเฉพาะทาง โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท กล่าวว่า เบื้องต้นก็จะต้องทำการเอ็กซเรย์ร่างกายก่อนว่ามีส่วนไหนที่มีความผิดปกติ หรือกระดูกหักหรือไม่ เนื่องจากทราบว่าก่อนที่น้องจะเดินไม่ได้ ช่วงเดือนตุลาคม ได้เกิดลื่นล้มกระแทกพื้น แต่ไม่ยอมไปหาหมอ จนทำให้เกิดอาการขาบวม ขาเริ่มกางออกจนหุบไม่ได้ และน้ำหนักเพิ่มขึ้นจาก 120 กิโลกรัม เป็นกว่า 150 กิโลกรัม ทำให้มีแผลกดทับตามร่างกาย
ขณะที่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า ทางครอบครัวของน้องเมย์ได้ติดต่อผ่านมาทางเฟซบุ๊คขอความช่วยเหลือ ตนเองจึงประสานทีมแพทย์จากโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ไปตรวจร่างกายของน้อง และก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี อีกทั้งโรงพยาบาลพร้อมที่จะช่วยรักษา จึงเข้าไปพูดคุย จากที่ตอนแรกน้องเมย์ไม่อยากไปหาหมอเพราะกลัวเข็มฉีดยา แต่เมื่อได้พูดคุยน้องเมย์ก็บอกว่าถ้าเคลื่อนย้ายตนเองออกไปได้ก็พร้อมที่จะทำการรักษา ตนเองพร้อมกับทีมงานจึงพยายามช่วยกันหาวิธีการที่จะนำน้องออกมาให้ได้ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวถือเป็นเคสศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมามูลนิธิร่วมกตัญญูเคยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่หนักกว่า 200 กิโลกรัม ลงมาจากชั้น 5 ได้อย่างง่ายได้ แต่ในเคสนี้ไม่ใช่แต่น้ำหนักแต่ยังต้องคำนึงถึงขาสองข้างที่กางออกมา ทำให้การเคลื่อนย้ายเป็นไปด้วยความลำบาก ขณะที่นายอิทธิพล พลเทพ พ่อของน้องเมย์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ บิณฑ์ และทีมงานเข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อมเพื่อให้น้องไปโรงพยาบาล และยังนำเจ้าหน้าที่มาช่วยเคลื่อนย้ายน้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม