หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำชิ้นส่วนภายในของนักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ (น้องเมย) ซึ่งเสียชีวิตไปส่งที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เพื่อรอการชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์นั้น
วันนี้เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก พลตำรวจตรี วัฒนา ยี่จีน รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรนครนายก ได้มีการเรียกนายตำรวจจาก สภ.บ้านนาซึ่งเป็นพื้นที่ของโรงเรียนเตรียมทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก รวมถึงพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเข้าประชุมหลังจากที่วานนี้ได้นำอวัยวะภายในของ นตท.ภคพงษ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 จากสถาบันพยาธิวิทยาโรงพยาบาลพระมงกุฎไปส่งต่อให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอีกครั้ง โดยรักษาการผู้บังคับการอนุญาตให้สื่อมวลชนเก็บภาพบรรยากาศก่อนที่จะมีการเริ่มประชุม และเมื่อเริ่มประชุมจึงเชิญสื่อมวลชนออกด้านนอก
ทั้งนี้ การประชุมในครั้งนี้เป็นการเร่งคลี่คลายของสาเหตุการเสียชีวิตของ นร.เตรียมทหารคนดังกล่าวให้เร็วที่สุด เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแบ่งงานกันออกหาข่าวและจะให้พนักงานสอบสวนเรียกเพื่อนสนิทของน้องเมยมาสอบอย่างละเอียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อสังเกตโดยเริ่มจากวันที่พ่อของน้องเมยมาส่งน้องเมยที่โรงเรียน คือวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา และวันก่อนที่จะเสียชีวิตว่า มีใครเห็นน้องเมยถูกเรียกออกไปธำรงวินัยบ้าง ซึ่งคาดว่าเพื่อนในโรงนอนน่าจะทราบเรื่องแต่ไม่กล้าที่จะพูด ขณะที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองได้เรียกพยานมาสอบปากคำแล้ว 11 คน ก็มีครอบครัวของผู้เสียชีวิต หมอจากโรงพยาบาล จปร. และกองการแพทย์ของโรงเรียนเตรียมทหาร แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้
ทั้งนี้รักษาการ ผบก.ภ.จว.นครนายกระบุว่าคณะทำงานสอบสวนได้กำหนดประเด็นการสอบสวน ในเรื่องของพยานบุคคล พยานวัตถุ รวมไปถึงสถานที่เกิดเหตุเพื่อขอความร่วมมือไปยังโรงเรียนเตรียมทหาร เพื่อเอาพยานบุคคลเข้ามาสู่ขบวนการการสอบสวนชันสูตรพลิกศพ
ในส่วนของประเด็นการสอบสวนได้กำหนดในส่วนของพยานบุคคลว่าจะต้องสอบอะไรบ้าง และพยานเอกสารต้องการอะไรบ้าง ในส่วนสถานที่เกิดเหตุต้องการไปตรวจสถานที่ใด จึงต้องมีการประสานไปยังผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหารว่าพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการตามกฎหมายตามประเด็นที่ได้ส่งไป ยืนยันว่าจะเร่งคลี่คลายปมการเสียชีวิตของนองเมยให้เร็วที่สุด และย้ำว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
+ อ่านเพิ่มเติม