ครอบครัวน้องเมยรับอวัยวะไปชันสูตรต่อ-ผบ.สส.สั่งตั้งกก.สอบอีกชุด ระบุเตรียมทหารส่งผลสอบมาแล้ว

8,395 ครั้ง

23 พ.ย. 2560

แชร์ข่าวไปที่

ญาติรับอวัยวะ "น้องเมย" ไปชันสูตรต่อ คาดใช้เวลา 1 สัปดาห์รู้ผล ด้านโฆษกกลาโหมระบุ รร.เตรียมทหารส่งผลสอบถึงมือผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) แล้ว และ ผบ.สส.สั่งตั้งกรรมการสอบอีกชุด ขอให้รอผลทางการแพทย์และยืนยันให้ความเป็นธรรมพร้อมขอให้คำนึงจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ระบุการธำรงวินัยเป็นสิ่งจำเป็นและการคัดเลือกนักเรียนปกครองมีขั้นตอนและคุณสมบัติ เชื่อรุ่นพี่ดูแลรุ่นน้องได้

เวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ที่ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายพิเชษฐ และนางกัลยา พ่อแม่พร้อมด้วย นางสาวสุพิชชา ตัญกาญจน์ พี่สาวของนักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ ตัญกาญจน์ (น้องเมย) ได้เดินทางมาพร้อมกับตำรวจ สภ.บ้านนา จ.นครนายก เจ้าของคดี เพื่อมารับอวัยวะของน้องเมย ประกอบด้วย สมอง หัวใจและกระเพาะอาหาร เพื่อนำไปให้ทีมแพทย์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ชันสูตรอีกครั้งตามที่ทางตำรวจได้ร้องขอไป เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน

โดยทางผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กล่าวว่า คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ คือสิ้นเดือนนี้หรือช้าสุดไม่เกินต้นเดือนหน้า จะทราบสาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียดโดยชิ้นส่วนสำคัญที่สามารถบ่งชี้สาเหตุการเสียชีวิตได้ คือสมองและหัวใจ ซึ่งกรณีน้องเมยสามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้แม้จะผ่านมากว่า 1 เดือนแล้วก็ยังสามารถตรวจพิสูจน์ได้ หากมีการเก็บรักษาตามหลักทางการแพทย์ รวมทั้งสามารถตรวจเทียบดีเอ็นเอเพื่อยืนยันว่าเป็นของศพผู้เสียชีวิตจริงหรือไม่ ล่าสุดอยู่ระหว่างการพูดคุยทางครอบครัวน้องเมยและโรงพยาบาลพระมงกุฎ

พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ว่าเบื้องต้นโรงเรียนเตรียมทหารได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของน้องเมยแล้ว 1 ชุด โดยผลของการสอบสวนได้ส่งขึ้นมาถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด และได้นำเรียนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบแล้ววันนี้ ขอให้รอความชัดเจนทางการแพทย์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และความสบายใจกับผู้ปกครอง

นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ ขณะเดียวกันผลทางการแพทย์ยังไม่ออกมา ขณะนี้ขอให้รออีกครั้งเพื่อทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตของน้องเมยมาจากอะไร โดยคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจะใช้เจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะกำกับดูแลโรงเรียนเตรียมทหาร โดยอาจจะแต่งตั้งรองเสนาธิการทหาร ท่านใดท่านหนึ่งเป็นประธานสอบ

พร้อมยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวและทุกฝ่าย และขอความร่วมมือกับสังคมว่าเวลานี้ต้องคำนึงถึงผลกระทบจิตใจของครอบครัวผู้ปกครองที่สูญเสียบุตรชาย ดังนั้นการนำเสนอข้อมูลที่อาจจะไม่ครบถ้วนหรือบิดเบือนอาจกระทบจิตใจครอบครัวได้ ทั้งนี้ขอเวลาเพื่อพิสูจน์ทางการแพทย์และผลการสอบสวน ไม่อยากให้คนบางกลุ่มโดยเฉพาะคนที่ทำงานทางการเมืองไปแสวงหาผลประโยชน์กับการสูญเสียของนักเรียนเตรียมทหารเป็นประเด็นทางการเมือง

สำหรับการธำรงวินัยนั้น ถือเป็นการปรับสภาพร่างกายซึ่งจะมีหลักสูตรตั้งแต่เบาไปหาหนักตามสมรรถภาพร่างกายนักเรียน เพื่อฝึกความเป็นระเบียบวินัยที่กองทัพจำเป็นจะต้องมี แปลงจากความเป็นพลเรือนสู่การเป็นทหาร ย้ำว่าความเป็นทหารนั้นยึดถือความมีวินัยเป็นสำคัญ ทั้งนี้ส่วนตัวที่เคยเป็นนักเรียนปกครองรุ่นน้องโรงเรียนเตรียมทหารมาก่อน ยืนยันว่าการคัดเลือกตัวบุคคลนั้นจะต้องมีขั้นตอน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักเรียนคัดบุคคลขึ้นมาเอง ซึ่งต้องดูจากสามประการคือหนึ่ง ลักษณะทหารที่ดีเป็นที่ยอมรับของเพื่อน สอง มีการศึกษาที่ดีด้วย สาม มีภาวะวิสัยและความเป็นผู้นำคุณธรรมจริยธรรม และเมื่อคัดขึ้นมาจะมีคณะมากรรมการขึ้นใหม่อีก ชุดหนึ่งซึ่งจะสัมภาษณ์ภาวะวิสัยและจิตวิสัยของผู้ถูกคัดเลือกเชื่อมั่นว่าบุคคลเหล่านี้จะสามารถดูแลปกครองรุ่นน้องได้ ซึ่งเป็นธรรมเนียมมาหลาย 10 ปีแล้ว

แชร์ข่าวไปที่

โรงเรียนเตรียมทหาร

สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

น้องเมย

ภคพงศ์

นักเรียนเตรียมทหาร

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด