สื่อมวลชนฐานะพยานฝ่ายโจทก์คดีขัดคำสั่ง คสช. เดินทางมาให้ปากคำคนเดียว ส่วนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีไม่ได้เดินทางมา พร้อมเบิกพยานฝ่ายโจทก์เพิ่มอีกปาก เป็นตำรวจชุดจับกุม ในวันที่ 22 ม.ค.2561 นี้ ทนายเผยเตรียมยื่นคำร้องต่อศาลหลังถูกคุมขังเกินโทษที่กำหนด
เมื่อเวลา 15.00 น. ภายหลังจากที่ศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้ทำการเบิกตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จำเลยในคดความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.1123 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งศาล มทบ.23 ได้ขอเบิกตัวมาขึ้นศาลในวันนี้
ในการสอบพยานโจทก์ในความผิดฐานขัดคำสั่งของ คสช.ที่ 3/2558 โดยศาล มทบ.23 ได้ทำการสืบพยานโจทก์นัดแรกตามที่พนักงานอัยการศาลทหารได้ขอเบิกพยานไว้ 2 ปาก ประกอบด้วยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีและสื่อมวลชนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยมีเพียงสื่อมวลชนที่อยู่ในเหตุการณ์เดินทางมาให้ปากคำเพียงคนเดียว หลังทางองค์คณะผู้พิพากษาสืบพยานโจทก์ปากแรกเสร็จ จึงได้ส่งตัวนายจตุภัทร์ กลับเข้าคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นทันที
โดยนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า การนัดสืบพยานโจทก์ วันนี้พนักงานอัยการศาลทหาร ได้ขอเบิกพยาน 2 ปาก คือพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีและสื่อมวลชนที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่มีเพียงผู้สื่อข่าวในฐานะพยานเดินทางมาเพียงคนเดียว ซึ่งศาลได้นัดสืบพยานโจทก์อีกครั้งในวันที่ 22 มกราคม 2561 และฝ่ายโจทก์ได้เบิกพยานเพิ่มอีก 1 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม รวมเป็น 2 ปากกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่จะต้องมาให้ปากคำต่อศาลในวันที่ 22 ม.ค.
นายอานนท์ กล่าวต่ออีกว่า ในวันนี้ได้ยื่นคำร้องต่อให้ให้ปล่อยตัวไผ่ เนื่องจากว่า ไผ่ถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีมาเกินกว่าโทษตามกฎหมายสูงสุดของคดีนี้คือ 6 เดือน แต่ศาลไม่ปล่อยตัวเพราะเห็นว่าไผ่ตกเป็นจำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ และยังคงถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น เมื่อเป็นการขังซ้อนกันอยู่ศาลจึงมองว่า ยังไม่ถือเป็นการรับโทษในคดีขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 จึงยังไม่สั่งปล่อยตัว และการหักล้างเรื่องการคุมขังศาลจะสั่งในคำพิพากษาต่อไป ซึ่งทีมทนายจะได้หารือกันเพื่อเตรียมแนวทางแย้งต่อศาลต่อไป ส่วนการสืบพยานฝ่ายจำเลยคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในเดือนมีนาคม 2561
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม