พ่อร้องเพจกล้าที่จะก้าว หลังลูกชายถูกรุมฟันจนเสียชีวิต สุดงง ลูกชายเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย หรือตกจากรถมอเตอร์ไซค์ แต่ผ่านมานาน 8 เดือน คดีไม่คืบ สุดท้ายแล้วสาเหตุการเสียชีวิตคืออะไร ?
วันที่ 9 ส.ค. 67 คุณ ธรรม เทพทอง (ปาล์ม) พ่อของผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า วันที่ 19 ธันวาคม วันเกิดเหตุ วันนั้นตนนอนอยู่กับน้องอีกสองคน ขณะนั้นมีเพื่อนมาบอกว่า ลูกชายโดนฟัน ให้ตนไปดูอาการเวลาประมาณ 6.00 น. หลังจากนั้นลูกก็เสีย ด้านหมอแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุ รถล้ม มีอาการม้าม-ตับแตก ตนก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ หลังจากนั้น 1-2 วัน จึงไปหาร้อยเวรขอดูกล้องวงจรปิด เพราะอยากแน่ใจว่าเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ โดยบริเวณที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิด ตนจึงขอดูภาพกล้องวงจรปิดจากปั๊ม แต่ปั๊มบอกว่าให้ตำรวจไปแล้ว ให้ไป 2 สน. มี สน.ตลิ่งชัน กับ สน.ธรรมศาลา
ตนจึงเดินทางไปสถานีตำรวจเพื่อขอดูภาพกล้องวงจรปิด ตำรวจแจ้ง ว่า ส่งศาลไปแล้ว เพราะตอนจับกุมตัว หลักฐานต้องส่งไปพร้อมกับผู้ต้องหา หลังจากนั้นจนถึงเดือนมกราคม ร้อยเวรโทรมาถามว่า มีเงินกินข้าวไหม ก่อนจะโอนเงินมาให้ตน 2,500 บาท ตนก็ขอบคุณ เพราะน้ำไฟที่บ้านถูกตัดอยู่ ตนสงสัยว่าทำไมคู่กรณีไม่มารับผิดชอบเลยเหรอ จนถึงวันนี้ผ่านมากกว่า 8 เดือน ยังไม่มีการรับผิดชอบจากคู่กรณี
ทางตำรวจแจงอีก ว่า มีดที่ลูกตนถูกฟันมันสั้น ไม่สามารถฟันให้ลูกเสียชีวิตได้ แต่หมอบอกกว่าลูกม้าม-ตับแตก ตนสงสัยและอยากทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าลูกตนรถล้มแล้วโดนรุมทำร้ายหรือโดนอะไร ตนแค่อยากเห็นกล้อง เพราะเพื่อนลูกบอกว่าลูกตนโดนฟัน จากที่เพื่อนลูกบอกกับตำรวจบอกมันยังขัดแย้งกัน ด้านตำรวจมีการเรียกเงิน 2 หมื่น จากตน ร้อยเวรบอกว่า รถที่ลูกตนซ้อนไปไม่สามารถติดต่อ พรบ. ได้ ติดต่อเจ้าของรถไม่ได้ และให้ตนหาเงินมา 2 หมื่น ให้คู่กรณี เพื่อให้ตนเบิก พรบ.อุบัติเหตุ ของรถที่ฟันลูกตนได้
โดยตนต้องไปกู้เงินเพื่อนำเงิน 2 หมื่นไปให้คู่กรณี หลังจากนั้น 7 วัน พรบ. ตีกลับพร้อมแจ้ง ว่า ไม่เกี่ยวกับ พรบ. ลูกตนถูกทำร้าย ตนก็งงว่า พรบ. รู้ได้อย่างไร เพราะในสำนวนเขียนว่าเป็นอุบัติเหตุ โดยทาง พรบ. เขาต้องตรวจสอบและลงพื้นที่ไป สน. จุดเกิดเหตุ เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอยู่แล้ว แต่ที่ตนไม่เข้าใจคือทำไมตำรวจไม่ให้ตนดูภาพกล้องวงจรปิด ตนแค่อยากทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเท่านั้น
ด้าน อธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เล่าว่า ตนก็ขอดูหลักฐาน และได้ประสานทางผู้กำกับ สน.ธรรมศาลา สองครั้ง ได้คำตอบว่า เรื่องนี้ส่งสำนวนแล้ว ประกันตัวที่ศาลแล้ว โดยให้ตนคุยกับสารวัตรสำนวนคดี ตนก็ถามหลายประเด็นว่า สรุปแล้วเคสนี้ เป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม เขาก็ตอบแบบเลี่ยง ๆ ส่วนเรื่องเงิน 2 หมื่น แจงว่าเห็นว่าทางคุณพ่อไม่มีเงินจึงอยากจะช่วยนำเงินคู่กรณีมาให้พ่อ จำนวน 5.8 แสนบาท โดยให้คู่กรณีไปเบิก พรบ. แต่ทาง พรบ. เขาต้องตรวจสอบละเอียดอยู่แล้วว่ามันไม่เกี่ยวข้อง
โดยตนได้ข้อมูลจากเด็กคนหนึ่ง เป็นคนที่ซ้อนอยู่ตรงกลางของรถที่ผู้เสียชีวิต ได้เข้าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจได้สอบปากคำเด็กคนนี้นานที่สุด และบอกให้เด็กอย่าไปบอกข้อมูลใครอย่าเล่าให้ใครฟัง แต่เด็กเลือกที่จะให้ข้อมูลกับตน เพราะสงสารเพื่อนและสงสารพ่อเพื่อน โดยให้ข้อมูลว่า ช่วงที่เพื่อนหล่นจากรถ ก็มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามารุม เพื่อนไม่ได้ตายที่โรงพยาบาล เพื่อนตายคาที่ตรงนั้นเลย
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ให้ความเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นมีดเล็กหรือมีดใหญ่ก็เป็นเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ดูจากเอกสารโรงพยาบาลได้ลงรายละเอียดแบบคร่าว ๆ ในส่วนของหนังสือรับรองการเสียชีวิต บอกว่า มีการบาดเจ็บ มีเลือดออกในทรวงอก ปอดฟกช้ำ มีเลือดออกในช่องท้อง ถามว่าบอกได้หรือไม่ว่าบาดแผลเกิดจากมีด
ถ้าในมุมมองของตนเป็นได้ทั้งสองอย่าง เพราะไตฉีกขาดหรือม้ามฉีกขาด มีโอกาสที่จะเกิดจากอุบัติเหตุได้ ตกรถแล้วกระแทก ตับ ไต ม้าม ก็สามารถฉีดขาดได้ สามารถมีเลือดออกในทรวงอกได้ แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่จะตัดสิน คือบาดแผลภายนอก ถ้าถูกฟันมีบาดแผลให้เห็น ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับการบาดเจ็บในช่องท้อง แต่อาจจะไปสอดคล้องกับการบาดเจ็บจากการรุมกระทืบ รายละเอียดที่สามารถบอกได้ชัดเจนที่สุดคือ รายงานชันสูตร
ส่วนตัวตนคิดว่า การที่จะมาบอกว่ามีดสั้น การใช้อาวุธมีดไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต ที่เสียชีวิตเกิดจากอุบัติเหตุ แต่ถ้าคุณไม่ไปทำร้ายเขา เขาก็ไม่ตกจากรถ เขาก็ไม่เสียชีวิต เพราะงั้นมันแยกกันไม่ได้ ในกรณีนี้เกิดขึ้นจากอาวุธอะไร มีลักษณะอย่างไร ต้องสอบปากคำคนผ่าชันสูตรศพเพิ่มเติมประกอบในสำนวน มันต้องชัดเจนว่า สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงคืออะไร
ด้าน รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า สำนวนต้องมีคดีเดียว ถ้าจะมีสองสำนวนคือ เราไปทำร้ายเขากับเขามาทำร้ายเรา จะมีสองสำนวนเพราะเป็นเจ้าทุกข์ทั้งคู่ จะไม่มีกรณีที่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตแล้วบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ มันเป็นไปไม่ได้ ร้อยเวรก็ไม่มีใครเขาทำในลักษณะนี้ โดยในคดีนี้ลักษณะของการนำมีดไปฟันขณะขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ เล็งเห็นได้ว่าเป็นเจตนาฆ่า ไม่สามารถเป็นอุบัติเหตุได้
พ.ต.ต.พิทักษ์ จันทร์ศรี สว. (สอบสวน) สน.ธรรมศาลา จุดที่เสียชีวิตจากการสอบพยาน คือ หน้าโชว์รูมรถ กล้องวงจรปิดจะเห็นว่า มีเด็กขับรถไล่ตามกันมา กล้องที่เห็นภาพขณะตกจากรถชัด ๆ ไม่มี ภาพกล้องวงจรปิดตนได้ให้ทางพ่อของผู้เสียชีวิตดูแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับและส่งฟ้องแล้ว ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นและทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เนื่องจากคดีนี้มีความสำคัญมาก จึงมีคำสั่งให้จับกุมภายใน 3 วัน โดยสามารถจับกุมได้ครบแล้ว เรื่องเงิน 2 หมื่นบาท ตนทราบและมีรายละเอียดเยอะมาก ไม่สามารถบอกได้
ด้าน เอม (นามสมมติ) แม่ของผู้ก่อเหตุ ตนรู้ว่าเด็กขับรถไล่กันจนรถไปชนเสาไฟฟ้า ตนรู้ว่าเด็กเสียชีวิตจากรถล้ม แล้วชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ตั้งแต่เกิดเหตุตนยังไม่เคยได้คุยกับพ่อผู้เสียชีวิต ตนก็พยายามติดต่อ ที่ไม่ได้คุยเพราะตนก็ยุ่งกับเรื่องของลูกตัวเองเช่นกัน โดยลูกตนแจงว่า แค่ขับรถไล่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย เห็นว่าขับไปชนเสาไฟฟ้าเองเพราะขับรถเร็วด้วย ส่วนเรื่อง พรบ.เคลมประกัน ตนพอรู้มาบ้างแต่เรื่องมันนานแล้วตนก็จำไม่ค่อยได้ ในส่วนของการเยียวยาถ้าตนช่วยอะไรได้ตนก็พร้อมช่วย การเจรจาเรียกเงิน 5 แสน เคยมีมาเจรจา ถ้าให้จ่ายจริงแล้วสามารถทยอยจ่ายได้ตนก็พร้อมจะชดใช้
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35