หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยอยู่ที่ระดับ 76.7 หลังการเมืองมีเสถียรภาพและผู้บริโภคหวังว่าเศรษฐกิจในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางการส่งออกและท่องเที่ยว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นตามการส่งออกและท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
สำหรับภาพรวมของการจับจ่ายในช่วงปลายปี นายธนวรรธน์ ระบุว่า ยากที่จะประเมินว่านโยบายช็อปช่วยชาติจะมีเงินเข้าระบบ 20,000 ล้านบาท ตามที่รัฐบาลคาดหวังได้จริงหรือไม่ เพราะรัฐเลือกทำในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทำให้ไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบ ซึ่งจากครั้งก่อนๆ มาตรการช็อปช่วยชาติจะมีเงินหมุนเวียนเข้าระบบจากมาตรการดังกล่าวประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยส่วนตัวมองว่าการกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนั้นจะช่วยเลื่อนการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้เร็วขึ้นจากปกติช่วงเดือนธันวาคม ที่เป็นช่วงของการจับจ่ายเดิมอยู่แล้ว เมื่อกำหนดมาตรการเร็วขึ้นก็จะทำให้เกิดเม็ดเงินใหม่เข้ามาในระบบ ทั้งจากแรงจูงใจด้านการลดภาษีและการที่ผู้ผลิตต้องสต็อควัตถุดิบเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ความคึกคักในการจับจ่ายน่าจะเริ่มดีขึ้นแม้ประชาชนจะยังมีความระมัดระวัง เบื้องต้นคาดว่าจะมีเงินสะพัดประมาณ 15,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับเม็ดเงินจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท ก็จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในช่วงปลายปี ราว 20,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้น GDP ให้เพิ่มขึ้นได้อีกร้อยละ 0.1 ทั้งนี้ หอการค้าจะทำการประเมินเศรษฐกิจในภาพรวมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ในการประชุมสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ ที่จ.สุราษฎร์ธานี
+ อ่านเพิ่มเติม