จากกรณีที่มีการแชร์ภาพวงจรปิด เหตุการณ์อุบัติเหตุในพื้นที่ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยเป็นเหตุการณ์ผู้หญิงขี่รถจักรยานยนต์ มาตามเส้นทางและเกิดเหตุชนท้ายรถยนต์กระบะที่จอดอยู่ริมถนน ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มลงและกระเป๋าเงินกระเด็นตกลงไปอยู่กลางถนน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งซ้อนผู้โดยสารมาสองคน ได้จอดรถจักรยานยนต์และให้ผู้โดยสารก้มลงเก็บกระเป๋าเงินก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป
ต่อมาผู้เสียหายได้ให้ นายสอาด นราแก้ว ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง เข้าไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ อบต.ท่าทราย และได้นำหลักฐานภาพวงจรปิด เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวคนขับวินจักรยายนต์รับจ้างที่ก่อเหตุ ได้ที่วินมานะบ้านดี ในพื้นที่ตำบลท่าทราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสนิท อินผา อายุ 52 ปี
นายสนิท อินผา ให้การว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2560 โดยนายสนิท ได้ขี่รถจักรยายนต์รับจ้างรับผู้โดยสารชาวเมียนมา 2 คน จากวัดศรีเมือง จะไปส่งที่ตลาดมหาชัยวิลล่า ระหว่างทางพบอุบัติเหตุตามที่ปรากฏในคลิปภาพวงจรปิด นายสนิท ยังอ้างอีกว่า ตนเองไม่ทราบว่าเป็นกระเป๋าเงินของผู้เสียหายที่เกิดอุบัติเหตุ และผู้โดยสารชาวเมียนมาก็เป็นคนหยิบกระเป๋าเงินให้ ซึ่งภายในมีเอกสารและเงินสดจำนวน 200 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า หลังที่เจ้าทุกข์ได้นำคลิปภาพวงจรมาแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจนพบว่านายสนิทอยู่ที่ไหน จึงได้นำผู้เสียหายไปพบกับนายสนิท เพื่อขอรับกระเป๋าเงินคืน ซึ่งนายสนิทได้พาไปเอากระเป๋าเงินที่บ้านของตนเอง
ขณะที่ น.ส.อุไรวรรณ บัวผัน ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลมหาชัย ซึ่งผู้เสียหายในคลิปวงจร เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองเพิ่งไปกดเอทีเอ็ม เพื่อนำไปจ่ายค่าแต่งหน้า ทำผม เนื่องจากตนเองต้องเข้ารับประกาศหลักสูตรอบรมผู้ช่วยพยาบาล ตอนนั้นเหลือเงินอยู่ในกระเป๋าประมาณ 8-9 ร้อยบาท และกำลังขี่รถกลับห้องพักซึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ โดยเก็บไว้ช่องหน้ารถมอเตอร์ไซค์ หลังจากพูดคุยกับคนขับรถกระบะเรียบร้อยแล้วก็เดินมาที่รถรถของตน แต่ไม่พบกระเป๋าเงิน จึงสอบถามคนในบริเวณดังกล่าวไม่มีใครเห็น และก็ช่วยกันค้นอยู่สักพัก เมื่อแน่ใจว่ากระเป๋าเงินหายแน่นอนแล้ว จึงเข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่เรื่องกระเป๋าเงินหาย เพื่อขอทำเอกสารใหม่
ด้าน พ.ต.ต.ศุภฤกษ์ ตรีเจตน์ สวป.สภ.เมืองสมุทรสาคร ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ กับบุคคลทั้งสามคนที่มีภาพปรากฏในวงจรปิด และหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าสายสืบติดตามตัวแรงงานเมียนมาอีกสองคนมาดำเนินคดี
+ อ่านเพิ่มเติม