ทนาย”โอ๊ค” ยื่นหนังสือดีเอสไอระงับการแจ้งข้อหา ฟอกเงิน ชี้พฤติการยังไม่น่าเข้าข่าย
logo ข่าวอัพเดท

ทนาย”โอ๊ค” ยื่นหนังสือดีเอสไอระงับการแจ้งข้อหา ฟอกเงิน ชี้พฤติการยังไม่น่าเข้าข่าย

2,474 ครั้ง
|
03 ต.ค. 2560
ทนายความนายพานทองแท้ ชินวัตร เดินทางยื่นหนังสือขอให้ดีเอสไอระงับการแจ้งข้อหา ฟอกเงินแก่ลูกความ ชี้พฤติการยังไม่น่าเข้าข่าย พร้อมยืนยันกรณีที่ดีเอสไอมีหมายเรียกให้เข้าพบวันที่ 24 นี้ หากได้รับหมายก็พร้อมเดินทางมาพร้อมลูกความตามนัด ขณะที่การยื่นหนังสือในวันนี้ขอให้มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนกลับไปเป็นของ ปปง ด้วยเช่นกัน
 
พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยถึงกรณีที่ดีเอสไอออกหมายเรียกนายพานทองแท้ ชินวัตร กับพวกรวม 4 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหาฐานฟอกเงินและสมคบกับฟอกเงิน ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ หลังไปพัวพันคดีทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร 
 
โดยระบุว่า พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา แต่ก็ต้องออกหมายเรียกให้ทางผู้ถูกกล่าวหาเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง และนำหลักฐานมาชี้แจง ซึ่งพนักงานสอบสวนก็พร้อมตรวจสอบคำร้องและให้ความเป็นธรรมจากทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจากนายพานทองแท้ว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกหรือไม่ แต่หากวันที่ 24 ตุลาคมนี้ นายพานทองแท้ไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน หรือมีการขอเลื่อน พนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็นก่อน และจะพิจารณาไปตามกระบวนการออกหมายเรียกและหมายจับตามความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะดำเนินการส่งสำนวนต่ออัยการให้ยื่นฟ้องศาลทันในอายุความที่หมดในช่วงปลายปี 2561 อย่างแน่นอน
 
ส่วนในวันนี้ที่นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความของนายพานทองแท้ จะเข้ายื่นหนังสือเพื่อขอให้พนักงานสอบสวนระงับการแข้งข้อกล่าวหาการฟอกเงินแก่นายพานทองแท้ ได้รับการรายงานแล้ว และได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรับเรื่อง และตรวจสอบข้อเท็จจริงไปตามกระบวนการ พร้อมยืนยันว่าคดีอื่นๆก็ดำเนินการเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่เพียงคดีนี้คดีเดียว
 
ขณะที่ในเวลาต่อมานายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความของนายพานทองแท้ ชินวัตร เดินทางเข้ายื่นหนังสื่อต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษผ่าน พันตำรวจตรีวรนันท์ ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอระงับการแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงิน ของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับนายพานทองแท้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คสต. ได้แจ้งข้อหานายพานทองแท้ในข้อหารับของโจรเพียงข้อหาเดียว รวมถึงขอให้มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวน กลับไปเป็นพนักงานสอบสวนของปปง. เช่นเดิม พร้อมขอให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีนี้ด้วยความรอบด้านเป็นพิเศษ กรณีที่นายพานทองแท้ ถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน 
 
ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากคดีทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้แก่กลุ่มกฤษดามหานคร และถูกออกหมายเรียกให้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ เนื่องจากเห็นว่าพฤติการณ์ของนายพานทองแท้ ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน เพราะคดีทุจริตธนาคารกรุงไทย เป็นความเกี่ยวพัน 3 กลุ่ม คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ และบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่งนายพานทองแท้ เป็นบุคคลภายนอก ประกอบกับเช็ค 10 ล้านบาท ที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์ เจ้าของโครงการหมู่บ้านกฤษดามหานคร สั่งจ่ายให้นายพานทองแท้ ได้มาก่อนมีการตรวจสอบการขออนุมัติสินเชื่อ และนายพานทองแท้ก็ไม่ทราบว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาจากการกระทำความผิด และไม่มีเจตนาซุกซ่อนอำพรางทรัพย์สิน อีกทั้งก็ไม่ทราบว่าทรัพย์ดังกล่าวได้มาจากการกระทำความผิด พฤติการณ์ของนายพานทองแท้ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน
 
ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกให้นายพานทองแท้มารับทราบข้อกล่าวหาคดีนี้ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ นายชุมสายยืนยันว่านายพานทองแท้จะมาเจ้าหน้าที่พบตามกำหนดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายเรียกดังกล่าวแต่อย่างใด หากได้รับก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
 
ด้านพันตำรวจตรีวรนัน ระบุว่า จะนำเอกสารที่ได้รับไปมอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตามร้องขอ แต่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะดำเนินการ ตามกฎหมาย ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาฟอกเงินที่ได้ทำหมายเรียกไปแล้ว จะดำเนินการระงับตามที่ร้องขอหรือไม่เป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ที่ต้องตรวจสอบในข้อเท็จจริงต่อไป 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง