logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

รวบ ! อดีตดาราช่องดัง ร่วมฟอกเงิน เว็บพนัน 1.5 พันล้านบาท | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจไซเบอร์ ทลายเว็บพนันรายใหญ่กลางกรุง เจอเงินหมุนกว่า 1,500 ล้านต่อปี รวบดารานายแบบ นักแสดงประกอบช ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ทิน โชคกมลกิจ,จีรนันท์ เขตพงศ์,สันติวิธี พรหมบุตร,บุญชงสงตอบ,ทนายบุญ

108 ครั้ง
|
27 ก.พ. 2568
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจไซเบอร์ ทลายเว็บพนันรายใหญ่กลางกรุง เจอเงินหมุนกว่า 1,500 ล้านต่อปี รวบดารานายแบบ นักแสดงประกอบช่องดัง และพรรคพวก ร่วมขบวนการเปิดบริษัทฟอกเงิน
 
จับนักแสดงช่องดัง ร่วมฟอกเงินเว็บฯ พนัน 1.5 พันล้านบาท
 
ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท. ทลายเว็บพนันรายใหญ่กลางกรุง มีเงินหมุนกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งจับกุมนักแสดงตัวประกอบช่องดังมีเอี่ยวเว็บพนันด้วย
 
พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนพบการกระทำผิดของเว็บพนันออนไลน์เครือข่าย WM CASINO มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน รวมกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้นับ 10 ราย ตำรวจ นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุดในพื้นที่ กทม.ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ได้แก่ 1.นายอมร สงวนนามสกุล อายุ 31 ปี นักแสดงตัวประกอบละครของช่องดัง 2.นายอิศรา สงวนนามสกุล อายุ 37 ปี และ3.นายไพรัช สงวนนามสกุล อายุ 38 ปี ตรวจยึดของกลางรวมมูลค่าประมาณ 10.5 ล้านบาท
 
โดย นายอมร ทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัทเปิดบัญชีนิติบุคคล และเป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร จากนั้นนำไปส่งให้ นายไพรัช ซึ่งเมื่อรวมระยะเวลา 4 เดือนตั้งแต่จัดตั้งบริษัทแล้ว ทราบว่านายอมรได้ถอนเงินสดไปแล้วกว่า 120 ล้านบาท
 
เส้นทางอดีตดารา เคยเล่นเป็นเพื่อนพระเอก
 
นอกจากนี้ยังพบว่า นายอมร มีอาชีพเป็นนักแสดงประกอบละครของช่องดังช่องหนึ่ง เคยรับบทเป็นเพื่อนพระเอกของละครดัง เคยแสดงเป็นพระเอกมิวสิควิดีโอ ถ่ายแบบนิตยสาร งานเดินแบบ งานประกวด และรับงานต่าง ๆ ในวงการบันเทิง
 
ส่วน นายอิศรา ทำหน้าที่เป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โดยได้เบิกถอนเงินจากบัญชีบริษัทต่างกัน จำนวน 3 บริษัท แล้วนำไปส่งตามจุดต่าง ๆ ตามที่ นายไพรัช แจ้งโดยไม่ซ้ำจุดกัน รับจ้างทำมาแล้วกว่า 4 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาทั้งหมดแล้ว นายอิศรา ได้ถอนเงินสดมากกว่า 320 ล้านบาท
 
ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.การพนัน เบื้องต้นทั้งหมดให้การภาคเสธ ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ และติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
บิ๊กไซเบอร์ โต้รับส่วยเว็บพนัน 660 ล้านบาท
 
ขณะเดียวกัน พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มีการกล่าวพาดพิงตำรวจไซเบอร์ว่ารับส่วยเว็บพนัน 660 ล้านบาท โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวได้กำชับตั้งแต่ได้มารับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการแล้วว่า หากพบการกระทำความผิดหรือได้รับเรื่องร้องเรียนและพบพยานหลักฐาน จะดำเนินการทางวินัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดทุกราย
 
โดยสั่งการให้ผู้บังคับการทั้ง 5 กองบังคับการทำการสืบสวนจับกุมในทุกความผิด ภายใต้อำนาจรับผิดชอบอย่างเต็มที่ พร้อมติดตามตรวจสอบการปฏิบัติงาน เพื่อทำให้ถูกต้องและขยายผลจนสุดทางของการสืบสวนสอบสวน
 
ข่าวที่เผยแพร่ไปเป็นการโจมตีจะมีการแก้ไขหรือฟ้องกลับในส่วนตรงนี้หรือไม่ พลตำรวจโท ไตรรงค์ กล่าวว่า มองว่าประชาชนมีสิทธิที่จะเคลือบแคลงในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสิ่งที่ตำรวจจะสามารถทำได้ก็คือการรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชน ตั้งใจทำงาน และให้คำตอบกับประชาชนในสิ่งที่ประชาชนเคลือบแคลงได้ อีกทั้งหากประชาชนมีเรื่องร้องเรียนก็จะต้องนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วน
 
ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ตั้งใจทำงานมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้มากกว่าปีที่แล้วกว่า 300 คดี และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของตำรวจไซเบอร์ไปมีเอี่ยวหรือมีความผิดจริงจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดแน่นอน
 
อัจฉริยะ ยื่นสอบภาษี รอง ผบก.ตำรวจไซเบอร์
 
ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางเข้ายื่นหลักฐานกรมสรรพากร โดยอ้างว่า บัญชีธนาคารของรอง ผบก.ตำรวจไซเบอร์ 14 บัญชี พร้อมรหัสคริบโตที่มีเงินเข้าบัญชีมากกว่า 600 ล้านบาท เพื่อขอให้อธิบดีกรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีรายได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ หากพบการกระทำผิดขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง