ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจไซเบอร์ ทลายเว็บพนันรายใหญ่กลางกรุง เจอเงินหมุนกว่า 1,500 ล้านต่อปี รวบดารานายแบบ นักแสดงประกอบช่องดัง และพรรคพวก ร่วมขบวนการเปิดบริษัทฟอกเงิน
จับนักแสดงช่องดัง ร่วมฟอกเงินเว็บฯ พนัน 1.5 พันล้านบาท
ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท. ทลายเว็บพนันรายใหญ่กลางกรุง มีเงินหมุนกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งจับกุมนักแสดงตัวประกอบช่องดังมีเอี่ยวเว็บพนันด้วย
พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนพบการกระทำผิดของเว็บพนันออนไลน์เครือข่าย WM CASINO มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน รวมกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้นับ 10 ราย ตำรวจ นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุดในพื้นที่ กทม.ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ได้แก่ 1.นายอมร สงวนนามสกุล อายุ 31 ปี นักแสดงตัวประกอบละครของช่องดัง 2.นายอิศรา สงวนนามสกุล อายุ 37 ปี และ3.นายไพรัช สงวนนามสกุล อายุ 38 ปี ตรวจยึดของกลางรวมมูลค่าประมาณ 10.5 ล้านบาท
โดย นายอมร ทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัทเปิดบัญชีนิติบุคคล และเป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร จากนั้นนำไปส่งให้ นายไพรัช ซึ่งเมื่อรวมระยะเวลา 4 เดือนตั้งแต่จัดตั้งบริษัทแล้ว ทราบว่านายอมรได้ถอนเงินสดไปแล้วกว่า 120 ล้านบาท
เส้นทางอดีตดารา เคยเล่นเป็นเพื่อนพระเอก
นอกจากนี้ยังพบว่า นายอมร มีอาชีพเป็นนักแสดงประกอบละครของช่องดังช่องหนึ่ง เคยรับบทเป็นเพื่อนพระเอกของละครดัง เคยแสดงเป็นพระเอกมิวสิควิดีโอ ถ่ายแบบนิตยสาร งานเดินแบบ งานประกวด และรับงานต่าง ๆ ในวงการบันเทิง
ส่วน นายอิศรา ทำหน้าที่เป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โดยได้เบิกถอนเงินจากบัญชีบริษัทต่างกัน จำนวน 3 บริษัท แล้วนำไปส่งตามจุดต่าง ๆ ตามที่ นายไพรัช แจ้งโดยไม่ซ้ำจุดกัน รับจ้างทำมาแล้วกว่า 4 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาทั้งหมดแล้ว นายอิศรา ได้ถอนเงินสดมากกว่า 320 ล้านบาท
ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.การพนัน เบื้องต้นทั้งหมดให้การภาคเสธ ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ และติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บิ๊กไซเบอร์ โต้รับส่วยเว็บพนัน 660 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มีการกล่าวพาดพิงตำรวจไซเบอร์ว่ารับส่วยเว็บพนัน 660 ล้านบาท โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวได้กำชับตั้งแต่ได้มารับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการแล้วว่า หากพบการกระทำความผิดหรือได้รับเรื่องร้องเรียนและพบพยานหลักฐาน จะดำเนินการทางวินัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดทุกราย
โดยสั่งการให้ผู้บังคับการทั้ง 5 กองบังคับการทำการสืบสวนจับกุมในทุกความผิด ภายใต้อำนาจรับผิดชอบอย่างเต็มที่ พร้อมติดตามตรวจสอบการปฏิบัติงาน เพื่อทำให้ถูกต้องและขยายผลจนสุดทางของการสืบสวนสอบสวน
ข่าวที่เผยแพร่ไปเป็นการโจมตีจะมีการแก้ไขหรือฟ้องกลับในส่วนตรงนี้หรือไม่ พลตำรวจโท ไตรรงค์ กล่าวว่า มองว่าประชาชนมีสิทธิที่จะเคลือบแคลงในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสิ่งที่ตำรวจจะสามารถทำได้ก็คือการรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชน ตั้งใจทำงาน และให้คำตอบกับประชาชนในสิ่งที่ประชาชนเคลือบแคลงได้ อีกทั้งหากประชาชนมีเรื่องร้องเรียนก็จะต้องนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วน
ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ตั้งใจทำงานมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้มากกว่าปีที่แล้วกว่า 300 คดี และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของตำรวจไซเบอร์ไปมีเอี่ยวหรือมีความผิดจริงจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดแน่นอน
อัจฉริยะ ยื่นสอบภาษี รอง ผบก.ตำรวจไซเบอร์
ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางเข้ายื่นหลักฐานกรมสรรพากร โดยอ้างว่า บัญชีธนาคารของรอง ผบก.ตำรวจไซเบอร์ 14 บัญชี พร้อมรหัสคริบโตที่มีเงินเข้าบัญชีมากกว่า 600 ล้านบาท เพื่อขอให้อธิบดีกรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีรายได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ หากพบการกระทำผิดขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35