ปธ.ศาลอุทธรณ์แถลงลาออกหลังไม่ได้เป็น ปธ.ศาลฎีกา ระบุน้อยใจและไม่ได้รับความยุติธรรม

7,534 ครั้ง

18 ก.ค. 2560

แชร์ข่าวไปที่

นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อประกาศลาออกจากชีวิตข้าราชการในตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ ส่วนมติที่ประชุมของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. ที่มีคำสั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกานั้นตนขอไม่รับตำแหน่ง เพราะถึงแม้ว่าตำแหน่งจะเทียบเท่ากับประธานศาลอุทธรณ์ แต่ตำแหน่งที่ปรึกษาศาลฎีกาเป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นมาใหม่ และไม่มีข้อกฏหมายรับรอง เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตเมื่อประธานศาลฎีกาไม่อยู่ ทั้งในนิติประเพณีเดิมเคยมีประวัติว่า หากประธานศาลอุทธรณ์ไม่ได้ไปรับตำแหน่งประธานศาลฎีกาก็ยังสามารถรับตำแหน่งเดิมได้ ไม่เคยปรากฏว่าจะมีการตั้งตำแหน่งใหม่ขึ้นมาแบบนี้

นายศิริชัยกล่าวยืนยันอีกว่า ตลอดชีวิตราชการได้ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจซื่อสัตย์มาโดยตลอด แต่เมื่อต้องมาเจอกับมติ ก.ต. เช่นนี้รู้สึกน้อยใจและรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม จึงขอลาออก เพราะเมื่อตนเองไม่สามารถได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการก็ไม่สามารถให้ความยุติธรรมต่อประชาชนได้อีก ส่วนกรณีที่คณะอนุกรรมการ ก.ต. มีการหยิบยกคดีเก่าเมื่อปี 2558 ที่เป็นคดียาเสพติด โดยระบุว่าตนเองต้องการลงโทษผู้ต้องหาเพียงอย่างเดียวทั้งที่มีการยื่นคัดค้านจากเจ้าของคดี ยืนยันว่าตนเองมีการทำงานตามขั้นตอนที่ถูกต้อง มีหลักฐาน และความเห็นของตนเองเพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องมีคนในคณะทำงานเห็นชอบด้วยเช่นกัน ทั้งหลักฐานเอกสารบางรายการถือเป็นความลับทางกระบวนการยุติธรรม แต่พบว่ามีการนำออกไปยังที่ประชุมคณะอนุกรรมการ ก็ยังไม่ทราบว่าใครนำออกไปและนำออกไปได้อย่างไร นอกจากนี้ก่อนหน้านี้เคยคิดที่จะยื่นถวายฎีกา แต่เกรงว่าจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทจึงไม่ได้ยื่นถวาย และต่อจากนี้จะขอกลับไปอยู่อย่างสงบในบั้นปลายชีวิต พร้อมทั้งฝากถึงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้เข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบขั้นตอนของ ก.ต. ในอนาคต เพราะเกรงว่าจะมีคนที่ไม่ได้รับความไม่ยุติธรรมเช่นตน ส่วนจะมีการพิจารณาเรื่องของตนหรือไม่ ขอให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้า คสช. แต่ยืนยันจะไม่ยื่นเรื่องถึง คสช.อย่างแน่นอน

นายศิริชัยได้ยื่นหนังสือลาออกต่อคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. วานนี้ โดยขอให้มีผลตั้งแต่วานนี้ ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยจะมีการสอบต่อหรือไม่ต้องเป็นดุลยพินิจของ ก.ต. แต่ถ้าจะยังมีการสอบต่อก็พร้อมจะนำหลักฐานที่มีเข้าแสดง

(แฟ้มภาพจากมติชน)

แชร์ข่าวไปที่

ศาลอุทธรณ์

ศาลฎีกา

ประธานศาลอุทธรณ์