ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คุณผู้ชมยังจำ ผู้กองบอย ที่ใช้อาวุธปืนยิงแฟนสาว ซึ่งเป็นพริตตี้เสียชีวิตที่บ้านพัก ย่านวังทองหลาง เมื่อปี 2563 ได้หรือไม่-ซึ่งตอนเกิดเหตุช่วงแรก ๆ ผู้กองบอย อ้างว่า ฝ่ายหญิงทำปืนลั่นใส่ตัวเอง แต่พอถูกเค้นสอบไปมา สุดท้ายเป็นคนก่อเหตุยิงแฟนสาวเอง ล่าสุดศาลอาญาเตรียมออกหมายจับ เนื่องจากเบี้ยวฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ที่ศาลอาญา วันนี้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี ร้อยตำรวจเอก ทรงกลด บุญส่ง หรือ ผู้กองบอย อายุ 32 ปี อดีตรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.วังทองหลาง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ
โดยคำฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 จ่อยิงที่ศีรษะ น้องนิ่ม อายุ 30 ปี ภรรยาซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพื่อข่มขู่ โดยจำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่า หากกระสุนปืนลั่นออกมา จะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ เป็นเหตุให้มือของผู้ตายไปถูกอาวุธปืนดังกล่าว ทำให้อาวุธปืนลั่นออกมา 1 นัด กระสุนปืนถูกที่ศีรษะของน้องนิ่ม จนถึงแก่ความตาย โดยเหตุเกิดภายในทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่ง เขตบางกะปิ โดยจำเลยให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี
ต่อมาวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ศาลชั้นต้นเบิกความและพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่ายที่นำสืบแล้วพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดจริง ให้ลงโทษจำคุก 20 ปี และชดใช้ค่าเสียหาย 720,000 บาท ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม พอถึงเวลานัดวันนี้ เสมียนของทนายความจำเลย แจ้งต่อศาลว่า ไม่สามารถติดต่อจำเลยได้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง หรือร้องขอเลื่อนคดี เชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ พร้อมสั่งปรับนายประกันเต็มสัญญา 1 ล้านบาท
ภายหลังมารดาผู้ตาย ซึ่งเป็นโจทก์ร่วมในคดี กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่ ผู้กองบอย ไม่มาฟังคำพิพากษา เพราะก่อนหน้านี้เคยรับปากกับตนว่า ผมเป็นลูกผู้ชาย ขอรับผิดชอบสิ่งที่กระทำ แต่สุดท้ายก็หายไปเลย ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับตน แต่ตนติดต่อกับหลานสาวลูกผู้ตายบ้าง และขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการเยียวยาจากผู้กองบอยเลย
ขณะที่น้าชายผู้ตายกล่าวว่า หากผู้กองบอยบริสุทธิ์ใจ เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องมาศาล ไม่ต้องหนีอะไรที่เคยทำอะไรไว้ก็ขอให้รับผลไป
สำหรับคดีผู้กองบอยยิงภรรยาเสียชีวิต เกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 20 มิถุนายน 2563 ภายในทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ย่านถนนแฮปปี้แลนด์สายเก่า พบศพพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือน้องนิ่ม อยู่บนโซฟามีผ้าคลุมห่อร่าง และผู้กองบอยอยู่ในที่เกิดเหตุ
เบื้องต้น เขาให้การว่าน้องนิ่ม ฆ่าตัวเองตาย แต่ญาติไม่เชื่อ โดยลูกพี่ลูกน้องให้ความเห็นว่า ผู้ตายมีลูกอายุ 4 ขวบ กับผู้กองบอย อีกทั้งบ้านที่เกิดเหตุเพิ่งซื้อได้ 2 เดือน แต่มีปัญหาทะเลาะถึงขั้นทำร้ายร่างกายมาตลอด หนักสุดถูกสามีเอาปืนจ่อหัวทำร้ายจนสลบ แต่ไม่ยอมเลิก เพราะสงสารลูก
ตำรวจสอบสวน จนในที่สุดผู้กองบอยก็รับสารภาพว่า ภรรยาไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่สาเหตุมาจากการทะเลาะกัน เนื่องจากมีภรรยาอยู่แล้ว ก่อนมาคบกับผู้ตาย แต่ไม่สามารถตัดสัมพันธ์จากภรรยาคนแรกได้
วันเกิดเหตุ หลังออกจากเวร ได้นั่งดื่มสุราอยู่ชั้นล่างของบ้าน ก่อนภรรยาเข้ามามีปากเสียง แล้วแยกขึ้นไปนอนชั้นบน ตนตามไปง้อ แต่ฝ่ายหญิงหนีลงมาชั้นล่าง ทำให้โมโห หยิบปืนขึ้นมาคิดว่าปืนไม่มีลูก กระทั่งเกิดการยื้อแย่ง ทำให้ปืนลั่นใส่ฝ่ายหญิง จนเสียชีวิต
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35