นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับกรมการขนส่งทหารบก หรือ ขสทบ.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยถึงกรณีที่มีขบวนการยื่นเอกสารเท็จประมูลขายรถทอดตลาดของขสทบ. ว่า ตามปกติแล้วจะมีรถทหารที่ปลดประจำการ ซึ่งตามกระบวนการจะถูกขายทอดตลาดทุกปี เฉลี่ยปีละ 100 คัน ซึ่งรถเหล่านี้จะต้องนำเข้ามาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้อง แต่จากการตรวจสอบพบว่า การขอจดทะเบียนรถที่ปลดประจำการรอบล่าสุดคือในปี 2558 มีการจัดทำเอกสารปลอมเบื้องต้น 1,136 คัน โดยได้มีการตรวจสอบชัดเจนแล้วพบว่า 605 คันมีการกระทำผิด โดยการยื่นเอกสารเท็จจริง จึงได้ทำการอายัดและเพิกถอนการจดทะเบียนแล้ว ส่วนรถที่เหลือจะไปตรวจสอบที่มาของรถ และติดตามขยายผลต่อไป โดย DSI สามารถเอาผิดกลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวได้ต่อไป
ทั้งนี้เบื้องต้นตรวจสอบพบมีนายทหาร 1 ราย คือ พันเอก ภพกฤต พันธ์ยศ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยการลงนามการนำรถปลดประจำการมาขายทอดตลาด ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้ออกจากราชการแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว หากพบว่าร่วมกระทำความผิดด้วย จะดำเนินการขั้นสูงสุดคือให้ออก และจะเอาผิดทางอาญาและแพ่งด้วย
ส่วนกรณีที่กรมศุลกากรสอบถามข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก เกี่ยวกับการขอจดทะเบียนรถยนต์ก่อนขายทอดตลาดนั้น ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกได้ทำการตรวจสอบรถที่จะเข้าขอจดทะเบียนแล้ว โดยมีส่วนหนึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าสามารถจดทะเบียนได้ แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ต้องตรวจสอบเอกสาร และที่มาของรถก่อน โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบการขอจดทะเบียนของรถที่อายัดมาได้ของกรมศุลกากรทุกคัน และจะพิจารณาเป็นคันๆ ไป
+ อ่านเพิ่มเติม