เช้าวันนี้นางนุชนารถ แท่งทอง ประธานเครือข่ายสลัมสี่ภาค พร้อมกับชาวบ้านชุมชนบางปิ้งกว่า 150 คน เดินทางมาขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในกรณีถูกขับไล่ที่อยู่อาศัย แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดติดราชการ จึงมีนายชัยพจน์ จรูญพงศ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรปราการ, พ.อ.ประเทือง แก้วทุย รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรปราการ, พ.ต.ท.โสภณ ภูนุช รองผู้กำกับการปราบปราม สภ.เมืองสมุทรปราการ เชิญนางนุชนารถ แท่งทอง และตัวแทนชาวบ้านอีก 5 คน เข้าร่วมประชุมกันที่ห้องประชุมชั้นล่างศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ
โดยชาวชุมชนระบุว่า ชุมชนบางปิ้งเนื้อที่ 35 ไร่ ในต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีที่ดินเป็นของเอกชนรายหนึ่งซึ่งเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ได้ให้ชาวบ้านกว่า 350 หลังคาเรือน มาปลูกบ้านอาศัยโดยเก็บค่าเช่าที่ ต่อมาเมื่อหลายปีก่อนที่ดินแปลงดังกล่าวได้มีการขายให้เอกชนรายใหม่ ซึ่งเมื่อเอกชนรายใหม่ทราบว่าถนนสุขุมวิทตรงชุมชนบางปิ้งจะทำเป็นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส จึงได้ขอให้ชาวบ้านที่เช่าที่ดินย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อที่จะได้นำที่ดินมาทำเป็นคอนโดนิเนียมขาย แต่ชาวบ้านชุมชนบางปิ้งไม่มีใครยอมย้ายออกไป ทางเจ้าของที่ดินจึงได้มีการฟ้องศาลแพ่ง
ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้จำเลยซึ่งเป็นชาวบ้านชุมชนบางปิ้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินดังกล่าว และเจ้าของที่ดินได้มีการจ่ายเงินค่ารื้อถอนให้รายละ 7 หมื่นบาท มีชาวบ้านประมาณ 150 หลังคาเรือนที่ยอมย้ายออกไป แต่ก็ยังมีชาวบ้านอีกกว่า 200 หลังคาเรือนไม่ยอมย้ายออก บางรายอ้างว่ายังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ บางรายก็ว่าให้เงินค่ารื้อถอนน้อยเกินไป ซึ่งชาวบ้านจำนวน 165 หลังคาเรือนได้มีการกู้เงินสหกรณ์เพื่อนำไปซื้อที่ดิน 3 แห่งบริเวณแถวคลองด่าน จำนวน 9 ไร่ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ระหว่างนี้รอการถมดินอยู่ แต่ชาวบ้านทราบข่าวว่าจะมีเจ้าหน้าที่บังคับคดีและตำรวจเข้ามาในชุมชนบางปิ้งเพื่อจับกุมผู้ที่ขัดคำสั่งศาล ชาวบ้านจึงมีการจัดเวรยามคอยป้องกันเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลา 15.30 น.
และเมื่อวานเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่บังคับคดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมชาวบ้านชุมชนบางปิ้งซึ่งเป็นคนแก่อายุระหว่าง 75 -80 ปี จำนวน 5 คน ที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่ชุมชนบางปิ้ง จึงอยากให้เจ้าของที่ดินช่วยผ่อนผันการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน ซึ่งทางหัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรปราการจะได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมชาวบ้านหลายรายที่ขัดคำสั่งศาลแพ่ง ก็เป็นไปตามกฎหมาย
"เรื่องนี้ถือเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านมาก อายุ 80 กว่าปี โดนจับ 5 รายก็มีการเจรจา ชาวบ้านก็ออกมาพูดว่าขอให้ปล่อยก่อน เราไม่มีเงินที่จะไปประกัน แล้วถ้าคนแก่เข้าไปติดคุกในวันนั้น ซึ่งไม่ได้ส่งศาล มันจะเดือดร้อน วันนี้เราเลยรู้สึกว่า เราเลยมาหาผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจะหาแนวทางการแก้ปัญหา เพราะว่าชุมชนบางปิ้งมีการแก้ปัญหาเดินหน้าไปกว่าครึ่งแล้วซึ่งมีการซื้อที่ดินจ่ายเงินเรียบร้อย เหลือการพัฒนาที่ดินในพื้นที่ที่จะอยู่อาศัยใหม่เท่านั้นเอง เราไม่เคยเจอเจ้าของที่ดิน เพียงแต่เราเจอแต่ตัวแทนเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นทนาย ซึ่งใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมมาก เราฟังแล้วแบบสะเทือนใจมาก เขาบอกว่าเขาไม่เสียเงินแล้วเขาจ่ายให้ทหาร ตำรวจ ไปหมดแล้ว พูดแบบนี้เราเลยรู้สึกว่า เอ๊ะทำไมเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เข้าข้างชาวบ้านของเราเลย มันจึงทำให้เกิดเหตุการณ์วันนี้ขึ้น อย่างน้อยวันนี้เราได้มาพบพ่อเมือง คือผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อมาขอความเป็นธรรมกับเขา เพื่อให้อยู่ข้างคนจนบ้าง แล้วหาทางออกร่วมกันเพื่อจะลดข้อผิดพลาดระหว่างเจ้าของที่ดินกับชาวบ้าน" ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาคระบุ
ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาคกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีการจัดหาที่ดินใหม่ตามโครงการบ้านมั่นคง ซึ่งจะใช้เวลาราว 1 ปีในการที่จะเข้าไปอยู่ในที่ดินใหม่ได้โดยทำบ้านชั่วคราว ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะยึดที่ดินตรงนี้ และยังเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนกว่าในปัจจุบัน ซึ่งให้เงินรายละ 70,000 บาทแล้วให้ย้ายออกภายใน 1 เดือน ซึ่งทำให้คนที่ย้ายออกไปแล้วเมื่อเงินหมดก็กลับมาปลูกเพิงอยู่ กลายเป็นคนไร้บ้าน
ด้านนางสาวพนิดา ทองรบ อายุ 34 ปี ชาวชุมชนบางปิ้ง เล่าว่า พื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นของพระยารัฐพี ซึ่งเมตตาให้ที่คนยากคนจนเช่าอยู่ แต่ก่อนจะเสียค่าที่ตั้งแต่ 2 บาท ขึ้นไปจนครั้งล่าสุดที่เสียก็ประมาณ 160 บาท แต่เมื่อมีการไล่ที่ปลายปี 2557 ก็เกิดการทุบรื้อบ้านอย่างต่อเนื่องหลังย้ายออก แต่บางคนที่รับเงินชดเชยไปก็ไปไม่รอดและกลับมาอยู่ที่ชุมชน
ล่าสุด พ.อ.ประเทือง แก้วถุย รอง ผอ.รมน.สมุทรปราการได้รับเรื่องแล้ว และจะนำเรื่องเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วจะนัดบุคคลที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารืออีกครั้งในวันศุกร์หน้าช่วงเช้า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการปัญหาความขัดแย้งการไล่รื้อชุมชนบางปิ้ง โดยเมื่อปี 2557 ก็มีการร้องเรียนเรื่องการไล่รื้อมาแล้วครั้งหนึ่ง ขณะนั้นเจ้าของที่ดินคนใหม่มีการขับไล่ชาวบ้านออกนอกพื้นที่แบบกะทันหัน และให้ย้ายออกภายใน 4 เดือน ซึ่งต่อมากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีการหารือและได้ข้อสรุปว่าให้มีเงินชดเชยให้กับชาวบ้านรายละ 70,000 บาท รวมถึงเร่งดำเนินการปล่อยสินเชื่อกู้ยืมเพื่อซื้อที่ดินและปลูกสร้างที่อยู่อาศัยตามแนวทางของโครงการบ้านมั่นคง เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ให้ชาวบ้านด้วย
(แฟ้มภาพข่าวจากข่าวการร้องเรียนกรณีไล่รื้อชุมชนบางปิ้ง เมื่อปี 2557)