ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ระงับคำสั่งทางบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สั่งห้ามพลเมืองจาก 6 ประเทศที่มีพลเมืองส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ 90 วัน โดยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ชี้ว่าคำสั่งนี้ละเมิดกฎหมายการเข้าเมือง นับเป็นความล้มเหลวอีกครั้งในการพยายามทำตามนโยบายที่นายทรัมป์หาเสียงไว้ช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว
6 ประเทศดังกล่าวที่พลเมืองถูกสั่งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ ชั่วคราวตามคำสั่งนี้ได้แก่อิหร่าน, ลิเบีย, ซีเรีย, โซมาเลีย. ซูดาน และเยเมน นอกจากนี้คำสั่งนี้ยังครอบคลุมถึงการห้ามผู้อพยพจากชาติต่างๆ เดินทางเข้าสหรัฐฯ อีก 120 วันด้วย
นายเจฟ เซสชั่นส์ อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินดังกล่าวของศาล พร้อมทั้งระบุว่าคำสั่งทางบริหารของนายทรัมป์อยู่ภายในขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดีที่จะสั่งการเพื่อให้ประเทศอยู่ในความปลอดภัย
"การโจมตีเมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นว่าภัยคุกคามของสหรัฐฯ นั้นมีอยู่จริง" อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ กล่าวเสริม
มีรายงานว่าในการตัดสิน ศาลได้อ้างถึงคำพูดที่ทรัมป์โพสต์ผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาในการตัดสินด้วย โดยทวีตดังกล่าวระบุว่า "เราต้องการการห้ามเข้าประเทศสำหรับประเทศที่เป็นอันตราย ไม่ใช่ความถูกต้องทางการเมืองที่ไม่ช่วยปกป้องพลเมืองของเรา"
มีปฏิกิริยาหลังคำตัดสินดังกล่าวจากนายซีน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวที่ยืนยันความชอบธรรมของคำสั่งดังกล่าว โดยเขาระบุว่าสหรัฐฯต้องการเครื่องมือทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายเดินทางเข้าประเทศและก่อเหตุรุนแรงหรือเหตุนองเลือด
โฆษกทำเนียบขาวยืนยันอีกว่า ทำเนียบขาวยังคงเชื่อมั่นว่าคำสั่งฉบับนี้มีส่วนช่วยปกป้องประเทศและถูกต้องตามกฎหมาย และประเด็นนี้จะต่อสู้ไปจนถึงชั้นศาลฎีกา
+ อ่านเพิ่มเติม