กรณีหญิงสาววัย 24 ปี ออกมาแฉหมอโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่จ.ร้อยเอ็ดแจ้งผลวินิจฉัยผิดพลาดว่าเธอติดเชื้อเอสไอวี (HIV) ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ต้องกินยาต้านไวรัสมาตลอดกว่า 10 ปี แต่เมื่อไปตรวจเลือดอีกครั้งที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทยผลออกมาไม่พบเชื้อ
ล่าสุด นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความชื่อดังและประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์พานางสาวสุทธิดา แสงสุมาตร์ หรือนุ๊ก อายุ 24 ปี เดินทางไปที่คลินิกนิรนาม(ศูนย์วิจัยโรคเอดส์) เพื่อเข้าพบนายแพทย์ประพันธ์ ภายุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย และนายแพทย์สมบัติ แทนประเสริฐ ผู้แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาเป็นที่รังเกียจของสังคมไม่มีใครกล้าคบด้วย พร้อมนำหลักฐานสำคัญเป็นผลการรักษาของแพทย์ ประวัติการรับยาต้านไวรัสจากร.พ. แห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด มาเปิดเผยต่อหน้าสื่อมวลชน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ สภากาชาดไทยได้ทำการตรวจเลือดนางสาวสุทธิดา อีกครั้งเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งแบ่งเป็นการตรวจแบบ Rapid test หรือการตรวจแบบเร่งด่วน ด้วยตัวทดสอบปฏิกิริยา 2 ตัวด้วยกัน โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที โดยผลออกมาตรงกัน คือมีผลเลือดเป็นลบ ซึ่งหมายความว่า ไม่พบการติดเชื้อเอชไอวี สำหรับการตรวจแบบ Antibody ก็ไม่พบการติดเชื้อเช่นกัน นอกจากนี้ในได้มีการตรวจแบบ HIV-RNA ซึ่งเป็นการตรวจแบบตรวจที่แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งผลการตรวจจะแล้วเสร็จในวันจันทร์ที่ 5 มิ.ย. ที่จะถึงนี้
โดยนางสาวสุทธิดา กล่าวว่า ตั้งแต่ถูกแพทย์ ร.พ.แห่งหนึ่งที่ จ.ร้อยเอ็ด วินิจฉัยว่า ติดเชื้อเอชไอวี ก็ได้มีการทานยาต้านเชื้อมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ในระหว่างนั้นก็รู้สึกถึงผลข้างเคียงของการทานยาต้านไวรัส โดยบางครั้งมีอาการปวดหัว ผมร่วงอย่างหนัก ซึ่งเพิ่งหยุดยา มา5 ปี โดยในวันนี้ก็วอนขอความเป็นธรรม ซึ่งนอกจากยาที่ทานนานเป็นเวลากว่า 10 ปี นั้นอาจจะมีผลข้างเคียงแล้ว ในส่วนการที่ถูกสังคมรังเกียจตั้งแต่เด็ก จากการถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวี ก็อยากให้ทางโรงพยาบาลออกมายอมรับในความผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการผิดพลาดโดยเครื่องมือหรือจะเป็นความผิดพลาดโดยแพทย์ก็ตาม
นางสาวสุทธิดา เปิดเผยอีกว่า ทางร.พ. ที่จ.ร้อยเอ็ด ได้มีการโทรมาสอบถามพูดคุยถึงเรื่องอาการแล้วบ้าง และยังได้มีการเสนอให้ความช่วยเหลือเยียวยา แต่ตนก็ไม่ได้ตอบอะไรไป ขอเวลาปรึกษากับด้านทนายสงกานต์ก่อน
ด้านนายสงกานต์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางร.พ. ที่จ.ร้อยเอ็ดได้ติดต่อมาว่า หาประวัติการรักษานางสาวสุทธิดา พบแล้วหลังจากก่อนหน้านี้ รพ. อ้างว่าเอกสารถูกทำลายไปหมดแล้ว เหลือเพียงเอกสารการรักษาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งนางสาวสุทธิดา เข้ารับตรวจและรักษา กับทาง ร.พ. ดังกล่าว ตั้งแต่ประมาณปี 2545 แล้ว ถึงอย่างไรยังคงยืนกรานตามเดิม ที่จะตรวจสอบว่า การตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวี ในตัวของนางสาวสุทธิดา เกิดจากความประมาท เลินเล่อ ขอทางแพทย์ผู้ตรวจหรือไม่ หรือเป็นการประสบความสำเร็จของแพทย์ไทย ที่สามารถรักษาผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีให้หายขาดได้ ซึ่งจะได้เชิญแพทย์จากทั่วโลกมาศึกษาดูงานที่ประเทศไทย ต่อไป
นอกจากนี้ในวันจันทร์ที่ 5 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ทนายสงกานต์และนางสาวสุทธิดา จะเดินทางไปกระทรวงสาธารณะ เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการปฏิบัติและมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขจะเยียวยาผู้เสียหายต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม