ตำรวจเมียนมาร์เผยรู้เส้นทางหนี3มือร่วมฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงชายแดนทั้งตำรวจคนเข้าเมือง ทหารหน่วยเฉพาะกิจทหารม้าที่ 3 ศุลากรและตำรวจภูธรแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทำการตรวจตราการเข้าออกชานแดนบริเวณสะพานมิตรไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบกลับเข้ามาในประเทศของน.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์นอายุ 25 ปี และ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยวอายุ 24 ปี และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี ที่ อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลเพิ่มเติมอีกทั้งเดินทางกลับประเทศหลังจากใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสเดินทางข้ามฝั่งไปตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.โดยบัตรใช้อยู่ในประเทศเมียนมาร์ได้เพียง 7 วันซึ่งครบกำหนดไปเมื่อวานนี้ แต่จากการตรวจสอบก็ยังไม่พบตัวและไม่มีข้ามแดนมาแต่อย่างใด
ล่าสุดทาง พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ ผกก.ตม.เชียงราย ได้มีการหารือกับทางตำรวจ ตม.ท่าขี้เหล็ก เพื่อดำเนินการกับผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ซึ่งได้รับการตอบรับและร่วมมือจากทาง ตม.ท่าขี้เหล็ก เป็นอย่างดี โดยมีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมาพอจะทราบแหล่งกบดานใหม่ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และ น.ส.อภิวันทน์ แล้ว หลังจากทั้งหมดได้เดินทางออกจากที่พักข้างร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ ห่างจากชายแดนประมาณ 4 กิโลเมตร โดยไปอาศัยอยู่ที่แห่งใหม่ และทางตำรวจเมียนมาร์พอทราบเบาะแสแห่งใหม่รวมถึงรูปพรรณสันฐานของบุคคลที่พาหนีเป็นชาย 1 คนชาวเมียนมาร์ ซึ่งคาดว่าอาจหลบหนีไปในเขตรอยต่อจังหวัดท่าขี้เหล็กบริเวณพื้นที่เมืองโก ห่างจากร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ ประมาณ 15-20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของภรรยาคนที่พาหลบหนีอาศัยอยู่ แต่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่เมียนมาให้ความมั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้
รายงานเบื้องต้น แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท่าขี้เหล็กสามาถ จับผู้หญิง 3 คนเนื่องจากมีรูปประพรรสันฐานใกล้เคียงกับตามที่เป็น ขณะนี้กำลังเชิญตัวเจ้าหน้าที่ไทย ไปชี้ตัวว่า คือผู้ต้องหาที่ต้องการตัวหรือไม่ หากใช่ก็จะคุมตัวกลับมาที่ประเทศไทยทันที