ยังคงตามตัวสาวฆ่าหั่นศพฝั่งเมียนมาบัตรข้ามแดนหมดอายุวันนี้จากกรณี น.ส.กวิตา ราชดาหรือเอิร์น อายุ 25 ปี และ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้โดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ ในคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี และอีกทั้งได้ทำการหนีคดีไปยัง จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ ตรงกันข้าม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยเดินทางออกไปตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 60
ล่าสุดตามที่ นายวศิน นามพรหม อายุ25ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมตัวและทำการสืบสวนสอบสวนโดยให้การการซัดทอดไปยัง น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ อายุ 28 ปี ว่าได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุด้วย
ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนเข้าเมืองเชียงราย พบว่าได้ปรากฎชื่อ น.ส.อภิวันทน์ ว่าเป็นผู้ที่เดินทางออกชายแดนไทยตรงด่านพรมแดน อำเภอแม่สาย ไปเมื่อวันที่ 25 พ.ค.60 ด้วยบัตรผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดเห็นตัวทั้ง 3 คนอย่างชัดเจนว่าอยู่ร่วมกันหรือไม่ เพราะช่วงที่ออกจากชายแดนได้นั่งอยู่บนรถยนต์ที่ปิดกระจกไว้อย่างมิดชิดและมีผู้นำเอกสารออกมายื่นให้เจ้าหน้าที่ที่ด่านพรมแดนแทน
พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ ผกก.ตม.เชียงราย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ทั้งหมดทำบอเดอร์พาสออกไปนั้น ยังไม่มีการออกหมายจับทำให้ระบบไม่แจ้งเตือนต่อบุคคลดังกล่าว แต่หลังจากมีหมายจับระบบได้ออนไลน์ไปทั่วทุกด่านพรมแดนแล้ว ทำให้หากพบตัวก็จะมีการจับกุมดำเนินคดีได้ตามกฎหมายทันที
ทั้งนี้เนื่องจากผู้ต้องหาได้เดินทางออกไปในวันที่ 25 พ.ค.และมีอายุอยู่ในประเทศเมียนมาได้ 7 วัน ดังนั้นหากพ้นเวลาก็ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่กลับประเทศโดยไม่มีเอกสารรองรับ ล่าสุดได้รับแจ้งจากทาง ตม.เมียนมาร์ ว่าหากพ้นเวลาจะสามารถจับกุมได้โดยไม่ต้องอาศัยการประสานให้จับกุมตามข้อหาที่มีในประเทศไทยได้โดยทันที
สำหรับแหล่งอาศัยล่าสุดของผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบคือแหล่งบันเทิงใน จ.ท่าขี้เหล็ก ที่ชื่อว่าร้านโอโซน สปา แอนด์ คารโอเกะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารสูงหลายชั้นตั้งอยู่ใกล้ถนนสายท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง ห่างจากพรมแดนไทยเข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตร