ตร.กาฬสินธุ์ รวบหนุ่มโหด ฆ่าทุบหัวแฟนสาวทิ้งหมกป่า เหตุไม่ชอบคนโกหก ทำสติ๊กเกอร์ติดจยย.ไว้เตือนใจ

             ตำรวจกาฬสินธุ์ตามรวบหนุ่มวัย 24 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าทุบหัวหญิงสาวทิ้งศพหมกป่า จนเหลือแต่โครงกระดูก สารภาพแค้นถูกเบี้ยวเงินค่ายาเสพติด จึงวางแผนลวงมาฆ่าทิ้ง เพราะไม่ชอบคนโกหก

            สำนักงานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ คำดี ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงการจับกุมตัว แฟนหนุ่มวัย 24 ปี หลังก่อเหตุลวง แฟนสาววัย 34 ไปฆ่าแล้วทิ้งศพไว้ในป่าชุมชนบ้านคำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา

            โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2560 พนักงานสอบสวนเวร สภ.ห้วยผึ้ง ได้รับแจ้งจากนายวันชัย สิมสิน ผู้ใหญ่บ้านคำม่วง ว่ามีพบโครงกระดูกมนุษย์ ที่บริเวณป่าชุมชนบ้านคำม่วง จ.กาฬสินธุ์

            จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.กาฬสินธุ์ ได้ลงไปยังจุดเกิดเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์เพศหญิง ส่วนสูงประมาณ 150 ซม. ลักษณะกะโหลกศีรษะมีรอยร้าว คล้ายกับถูกของแข็งทุบ เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐานและส่งศพตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ขอนแก่น จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ทำให้ทราบว่าผู้ตายคือ แฟนสาว วัย 34 ปี จริง

            ต่อมาวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 ทราบว่า แฟนหนุ่มวัย ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อมาขอเงินจากมารดา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจสอบ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ซึ่งผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้ตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ห้วยผึ้ง

            โดยเมื่อซักถามถึงกรณีพบศพ แฟนสาว ได้ให้การรับสารภาพ ว่า รู้จักกับน.ส.รัตนามาหลายปีแล้ว เนื่องจากเป็นเครือข่ายค้ายาบ้าร่วมกัน แต่ระยะหลังแฟนสาวมาเอายาบ้าของตนไปขาย แต่ไม่เอาเงินมาให้หลายครั้ง จึงคิดว่าถูกหลอกและเกิดความแค้น เนื่องจากไม่ชอบคนโกหกและตอแหล จนนำสติ๊กเกอร์มาติดประชดไว้ที่ถังน้ำมันรถจยย.ไว้เป็นคติเตือนใจ โดยก่อนเกิดเหตุจึงได้โทรศัพท์ไปนัดให้แฟนสาว  มาเอายาบ้าที่บริเวณ ซึ่งระหว่างพูดคุยกันจึงอาศัยช่วงเผลอ ยกก้อนหินขนาดเกือบเท่าศีรษะคนทุบเข้าที่ศีรษะจน แน่นิ่งสลบไป จากนั้นจึงได้เดินทางกลับมาที่บ้านพัก กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมตัวได้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่มา มติชน