สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมอสโก ออกเรื่อง คำเตือนเกี่ยวกับการเดินทางมาประเทศรัสเซีย และรายงานสถานการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุระเบิดในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเนื้อหาระบุว่า
ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก
ฉบับที่ ๗/๒๕๖๐
เรื่อง คำเตือนเกี่ยวกับการเดินทางมาประเทศรัสเซีย
และรายงานสถานการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุระเบิดในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ตามที่ได้เกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๐ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้ผู้มีแผนจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่รัสเซีย โดยเฉพาะในกรุงมอสโกและนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทางและใส่ใจสังเกตความเป็นไปและสิ่งผิดปกติรอบข้าง รวมทั้งติดตามข่าวสารจากสื่อท้องถิ่น จากเว็บไซต์ (www.thaiembassy.org/moscow) และ Facebook Page ของสถานเอกอัครราชทูตฯ (www.facebook.com/rtemoscow) เพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของตนและผู้ร่วมเดินทาง นอกจากนี้ ควรทำประกันการเดินทางทุกครั้งเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
หากเกิดเหตุฉุกเฉิน โปรดติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางโทรศัพท์สายด่วนของสถานเอกอัครราชทูตฯ ตลอด ๒๔ ชั่วโมงที่หมายเลขโทรศัพท์ +๗ (๙๑๖) ๙๓๙ ๒๑๕๕ หรือติดต่อสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ +๗ (๘๑๒) ๓๒๕ ๖๒๗๑ ในวันและเวลาทำการปกติ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา ๒๑.๒๓ น. (เวลาท้องถิ่น) มีรายงานข่าวว่า รถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเริ่มให้บริการในบางส่วนแล้ว แต่ระหว่างสถานี Sennaya Ploshchad และสถานี Technological Institute ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ยังปิดให้บริการอยู่ มาตรการการตรวจตราและรักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออกสถานีรถไฟใต้ดินมีความเข้มงวดขึ้น
เมื่อเวลา ๒๓.๐๘ น. (เวลาท้องถิ่น) คณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซีย (National Antiterrorism Committee) ได้แถลงข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดแล้ว ๑๑ คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกำลังรับการรักษาในโรงพยาบาล ๔๕ คน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขรัสเซียได้ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์และการเยียวยาสภาพจิตใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติแล้ว
นอกจากนี้ ไม่ปรากฏรายชื่อบุคคลสัญชาติไทย ในรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว
ประกาศ ณ วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๐