อ.เฉลิมชัย เดือด ผู้ประกอบการหัวใสนำรูปวัดร่องขุ่นไปติดกล่องช็อคโกแลตขายละเมิดผลงานศิลปะ

8,840 ครั้ง

23 ก.พ. 2560

แชร์ข่าวไปที่

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ และผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ได้นำกล่องผลิตภัณฑ์ขนมช็อคโกแลตออกมาแสดง โดยบอกว่า ศิลปะวัดร่องขุ่นได้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ โดยกล่องดังกล่าวเขียนชื่อวัดร่องขุ่นเป็นภาษาอังกฤษ ระบุเป็นกล่องช็อคโกแล็ตที่ผลิตโดยบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศจีน และนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัทของไทย จำหน่ายในราคากล่องละ 199 บาท ภายในบรรจุช็อคโกแลตก้อนเล็กเป็นช่องๆ ประมาณ 21 ช่องพร้อมการห่อหุ้มอย่างดี

และสิ่งที่อาจารย์เฉลิมชัยระบุว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์คือภาพวัดร่องขุ่นที่อยู่บนหน้ากล่องซึ่งเป็นภาพถ่ายจากด้านข้างด้านสระน้ำของอุโบสถขาวซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม ปฏิมากรรมและจิตรกรรมหลักภายในวัดร่องขุ่นอันงดงาม โดยมีการระบุชื่อวัดร่องขุ่นเป็นชื่อกล่องผลิตภัณฑ์เอาไว้ด้านล่างซ้ายด้วยอักษรภาษาอังกฤษสีทองบนพื้นทองอย่างชัดเจน ส่วนมุมบนขวาและมุมล่างซ้ายมีศิลปะตกแต่งให้ดูสวยงามด้วย

อาจารย์เฉลิมชัย บอกว่า มีผู้พบเห็นกล่องช็อคโกแลตดังกล่าวถูกวางจำหน่ายไปทั่วทั้งที่สนามบิน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ร้านค้าสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า โดยมีการนำภาพดังกล่าวที่ระบุชื่อวัดร่องขุ่นเอาไว้อย่างชัดเจนระบุบนกล่องซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเจ็บอกเจ็บใจเป็นอย่างมาก เพราะตนไม่อยากให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เพราะมีกรณีคนใช้ปัญญาคิดค้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมาแล้วกลับถูกกลุ่มคนนำไปลอกเลียนแบบแล้วทำให้เขาเสียหายหรือเจ๊งมาแล้ว และถือว่าการลอกของๆ ของคนอื่นไปไม่เป็นการเคารพเจ้าของลิขสิทธิ์โดยเฉพาะด้านศิลปะที่คนสร้างเขาทุ่มเทด้วยความรักและศรัทธา โดยเฉพาะศิลปะวัดร่องขุ่นสร้างขึ้นโดยมอบให้กับประเทศชาติและคนไทยทุกคน แต่กลับมีคนนำเอาไปทำมาหากินไปเสีย ครั้นจะมาอ้างว่าไม่รู้กฎหมายคงไม่ได้เพราะก็เห็นกันอย่างชัดเจนเช่นนี้แล้ว

ปัจจุบันมีผู้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นี้โทรศัพท์ไปหาตนผ่านทางญาติๆ แล้ว เพื่อขอเจรจาโดยอ้างว่าใช้ภาพลิขสิทธิ์จากภาพถ่าย แต่ตนเห็นว่าเป็นคนละเรื่องกันเพราะถือว่าเป็นการเอาศิลปะนี้ไปทำมาหากินไม่ได้เอาไปเพื่อชื่นชมหรือเพื่อสาธารณกุศล ดังนั้นการจะเอาไปใช้เช่นนี้จะต้องมาขออนุญาตตนก่อนซึ่งตามปกติหากมีการนำไปใช้เพื่อสาธารณกุศล บริจาค ตนก็ไม่เคยขัดข้องหรือหากประสงค์จะเอาศิลปะของตนที่มีอยู่แล้วไปใช้ก็ต้องรอให้ตนเสียชีวิตไปแล้วเป็นเวลา 50 ปีเสียก่อน แต่หากตนยังคงอยู่ก็ขอให้มาคุยกันก่อนว่าจะแบ่งปันเพื่อสาธารณกุศลอย่างไร เช่น บริจาคให้เด็กกำพร้า บ้านพักเด็ก นำไปประกอบหนังสือธรรมะ ฯลฯ ขณะที่ส่วนตัวของตนแล้วไม่ต้องการสิ่งใดเลย

แต่กลับเอาวัดมาขายช็อคโกแลต คนทำแม้จะทำในจีนแต่ก็เป็นคนไทยนี่แหละที่ทำ แล้วก็เป็นคนรวยอยู่แล้วด้วยจะเอาร่ำรวยและเอาเปรียบคนอื่นไปถึงไหนกัน รวยแล้วก็ยังอยากจะรวยอีก วัดร่องขุ่นเป็นของประชาชนแม้แต่ครอบครัวของผมก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เอาวัดไปตั้งร้านค้าหรือเข้าไปค้าขายภายในวัด ปัจจุบันจึงมีนักกฎหมายมากมายที่เข้าขอฟ้องร้องให้ ผมก็บอกว่าโอเคยังสบายๆ อยู่ และคาดว่าคงจะมีตัวแทนบริษัทเข้ามาหาตนซึ่งตนก็คงจะขอให้มีการนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าซึ่งขายกันมานานจนได้เงินไปมากมายแล้วให้นำมาบริจาคเพื่อการกุศล เช่น เด็กกำพร้า บ้านพักเด็ก ฯลฯ หากว่ายังไม่ไปพบตนก็คงต้องเป็นไปตามกระบวนการ

อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวด้วยว่าในอดีตเคยมีการละเมิดศิลปะของตนมาแล้วมากมาย โดยครั้งหนึ่งมีการนำภาพศิลปะของตนไปทำเป็นจิ๊กซอจำหน่ายในประเทศจีน จึงมีการตามไปสืบหาและฟ้องร้องกันแต่กลุ่มทุนพวกนี้ใช้ชาวบ้านที่ยากจนเป็นชื่อเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังนั้นเมื่อมีการฟ้องร้องจนถึงขั้นขึ้นศาลและเปรียบเทียบปรับกันไปแล้วก็ไม่ได้ทำสิ่งใดต่อเพราะจะไปเอาความจากคนจนมากก็ไม่ได้จึงปล่อยตัวไป แต่กรณีผลิตภัณฑ์ช็อคโกแลตนี้ถือว่ามีความชัดเจนกว่ามาก ตนจึงอยากให้เป็นกรณีศึกษาหรือตัวอย่างเพื่อไม่ให้ผู้ที่ทุ่มเทกับงานไม่ว่าจะเป็นผลงานทางศิลปะ เพลง ฯลฯ ถูกละเมิดกันอีกต่อไป

แชร์ข่าวไปที่

วัดร่องขุ่น

เฉลิมมชัย

ช็อคโกแลต