นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่นายสุภัฒ สงวนดีกุล อดีตรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ขโมย ในโรงแรมที่ประเทศญี่ปุ่น ผลออกมา คณะกรรมการดังกล่าวมีความเห็นว่ามีมูลเข้าข่ายความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทำให้เสียภาพลักษณ์ที่ดีต่อข้าราชการไทย และประชาชนไทยทั้งประเทศ ซึ่งขั้นตอนต่อไปกระทรวงพาณิชย์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยมีผู้แทนจากหลายหน่วยงาน และมี ผู้แทนจากกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานคณะกรรมการสอบทางวินัยดังกล่าว ซึ่งผลสรุปดังกล่าวจะมีออกมาในเร็วๆนี้ ซึ่งบทลงโทษขึ้นอยู่กับฐานความผิดที่ได้พิจารณาออกมา โดยหากเป็น "ให้ปลดออก" นายสุภัฒยังสามารถรับบำเหน็จ บำนาญตามระเบียบข้าราชการได้เหมือนเดิม เช่นเดียวกับการลาออก แต่หากผลการพิจารณาออกมาเป็น "ไล่ออก" จะไม่สามารถรับบำเหน็จหรือบำนาญได้
ทั้งนี้ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับหนังสือการลาออกจากราชการของนายสุภัฒอย่างไม่เป็นทางการแล้ว แต่ตามระเบียบราชการนั้น การขอลาออกจะต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อขอลาออกจากราชการ และได้รับการเซ็นอนุมัติก่อนถึงจะมีผลอย่างเป็นทางการ โดยยืนยันว่า แม้นายสุภัฒจะขอลาออกแล้ว หรือหากการลาออกมีผลแล้ว แต่ยังต้องรับการพิจารณาโทษ โดยคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรงยังต่อไปจนกว่าจะจบเสร็จสิ้นกระบวนการ เพราะการพิจารณาเรื่องดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งคณะสอบสวนก่อนที่นายสุภัฒจะได้ส่งหนัวสือขอลาออกอย่างไม่เป็นทางการ และขอยืนยันว่าการพิจารณาต่างๆเป็นไปด้วยความโปร่งใส และเป็นธรรม
+ อ่านเพิ่มเติม