หญิงมะกันเผยอุทาหรณ์ ใบหน้าเสียโฉมหนัก หลังฉีดฟิลเลอร์หวังชะลอความแก่

สำนักข่าว metro นำเสนอเรื่องราวของ แครอล ไบรอัน หญิงชาวสหรัฐอเมริกา วัย 54 ปี ออกมาเล่าอุทาหรณ์ผ่านรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการแพทย์ชื่อดัง The Doctors หลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์เสริมความงามที่ใบหน้าเมื่อปี 2009 หวังจะชะลอความชราและคงความอ่อนเยาว์ แต่กลับต้องเผชิญกับฝันร้ายที่ไม่มีใครคาดคิดแทน

แครอล เล่าว่า ภายหลังการฉีดฟิลเลอร์เพียง 1 สัปดาห์ ใบหน้าของเธอก็มีปฏิกิริยาอันน่าตกใจเพราะสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปได้แยกตัวให้เห็นอย่างชัดเจน ทำให้หน้าผากของเธอบวมเป่งและห้อยย้อยปิดดวงตา จนเธอต้องใช้เทปดึงหนังตาเพื่อให้มองเห็น สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอไม่เคยก้าวออกจากบ้านโดยไม่มีการอำพรางใบหน้ามานานถึง 6 ปี และยังยอมรับอีกว่าเคยถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย

อดีตผู้เสพติดความงามเล่าอีกด้วยว่า เธอเริ่มทำโบท็อกซ์ตั้งแต่อายุเข้าเลข 3 ตอนนั้นเธอฉีดเข้าไปที่ระหว่างดวงตา ซึ่งมันได้ผลเป็นที่น่าพอใจและยังอยู่ได้นานหลายปี กระทั่งอายุเริ่มมากขึ้นทำให้เธอรู้สึกกังวลกับรูปลักษณ์ นำมาสู่การถูกชักชวนให้ฉีดฟิลเลอร์ แต่มันกลับเป็นฝันร้ายเพราะเธอไม่ได้ดูเหมือนตัวเองอีกต่อไป แต่เหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาว จากใบหน้าที่บวมเป่งและหน้าผากที่ยื่นออกมา เธอรู้สึกไม่มั่นใจจนไม่กล้าออกจากบ้าน ทั้งยังปลีกตัวจากครอบครัวและเพื่อนๆ นานถึง 3 ปีครึ่ง เพราะรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาดที่ต้องสวมหมวก ผ้าพันคอ และแว่นตาตลอดเวลา โดยได้แต่หวังว่าจะมีความกล้าเงยหน้ามองตัวเองในกระจกได้สักวันหนึ่ง

ขณะที่ตอนนี้เธอมีความมั่นใจมากขึ้นหลังนายแพทย์ Reza Jarrahy จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียทำการผ่าตัดแก้ไขใบหน้าให้ แต่ก็ต้องทำใจรับสภาพที่ใบหน้าเธอไม่อาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังได้เข้าร่วมในแคมเปญรณรงค์ต่อต้านการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อเตือนคนอื่นๆ ไม่ให้ต้องประสบกับฝันร้ายเหมือนที่เธอเคยเจอมา

ภาพจาก Doctors TV