ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ รับแจ้งจากหญิง อายุ 43 ปี ว่าถูกสามีเก่า อายุ 46 ปี ซึ่งได้เลิกรากันมานานแล้ว ได้ทำลายทรัพย์สินภายในห้องเช่าใน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายสินค้าอุปกรณ์แฮนด์เมด เกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อยต่างๆ ทั้งจักรเย็บผ้า เชือกร่ม ที่ใช้สำหรับถักประเป๋า หลายรายการ ร่วมไปถึงเสื้อผ้าของตนเองและลูกชายด้วย
หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบเป็นบ้านตึก 2 ชั้น ติด ถนน เปิดเป็นร้านขายอุปกรณ์สำหรับการเย็บปักถักร้อย ผลิตกระเป๋า และเสื้อผ้า เป็นงานแฮนด์เมด พบเชือกร่มที่ใช้สำหรับถักกระเป๋า ม้วนอยู่ในถุง ถูกดึงออกจากถุง ออกมากองรวมกันที่กลางห้องและได้มีการตักน้ำมาสาดทำให้เชือกและอุปกรณ์สินค้าที่จำหน่ายต่างๆเปียกเสียหายจำนวนมาก รวมน้ำหนักเชือกร่มที่เสียหายกว่า 700 กิโลกรัม ตกราคาจำหน่ายกิโลกรัมละ 300 บาท ขณะที่จักรเย็บผ้าถูกทุบทำลายเสียหายอีก 2 เครื่อง เสื้อผ้าและกระเป๋าที่เตรียมส่งลูกค้าถูกกรีดด้วยของมีคมเสียหาย รวมไปถึงเสื้อผ้าของลูกชายและของผู้เสียหายด้วย
สอบถามผู้เสียหาย ทราบว่า ได้หย่ากับสามีเก่ากันมานานแล้ว ซึ่งก็ได้ไปมีภรรยาใหม่แล้ว โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ย. สามีเก่าได้มาหาที่บ้านคล้ายจะมาขอคืนดีกับตน แต่ตนกลัวจะมีเรื่องทะเลาะกันรุนแรง เพราะที่ผ่านมาเมื่อทะเลาะกันสามีเก่าจะทำร้ายร่างกายตนเสมอ จึงได้นำลูกชายที่เรียนอยู่ชั้น ป.4 ออกไปพักที่อื่น ทิ้งให้สามีเก่าอยู่บ้านคนเดียว
แต่เมื่อเช้าเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์บอกว่า ข้าวของเครื่องใช้ที่บ้านถูกทำลายเสียหายหมดแล้ว ตนจึงรีบมาตรวจสอบ โดยพบว่าทรัพย์สินที่เสียหายมูลค่าประมาณ 3-4 แสนบาท ตอนนี้ตนไม่เหลืออะไรแล้ว แม้แต่ของที่จะส่งให้ลูกค้าก็ถูกกรีดเสียหายหมดแล้ว ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรกับชีวิต เพราะของทุกอย่างก็ต้องใช้เงินลงทุน ไม่รู้จะหามาจากไหน สงสารแต่ลูกๆที่ต้องมารับชะตากรรม จากพ่อบังเกิดเกล้าของตนเองกระทำไว้ ขนาดเสื้อผ้าที่จะใส่ทั้งของตนและลูกชายก็ถูกกรีดด้วยเช่นกัน อยากวอนเจ้าหน้าตำรวจให้ช่วยติดตามตัวอดีตสามีมารับผิดชอบความเสียหายดังกล่าวด้วย
ด้าน ร.ต.อ. สมนึก บุญเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่สอบความเสียหาย และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมจะดำเนินการออกหมายเรียกตัวอดีตสามี มาสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม