อ.เฉลิมชัย ชี้ 'ทศกัณฐ์มีเฮ' ไม่เกินเลย แนะไม่ควรยึดติดโบราณเพราะโลกเปลี่ยน
logo ข่าวอัพเดท

อ.เฉลิมชัย ชี้ 'ทศกัณฐ์มีเฮ' ไม่เกินเลย แนะไม่ควรยึดติดโบราณเพราะโลกเปลี่ยน

32,916 ครั้ง
|
22 ก.ย. 2559
     หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสเรื่องการนำยักษ์ทศกัณฐ์ไปเป็นตัวละครในมิวสิควิดีโอเพลง "เที่ยวไทยมีเฮ" จนมีบางกลุ่มออกมาต่อต้านว่าไม่เหมาะสม โดยเผยแพร่ภาพและข้อความไปต่างๆ นานาในโลกออนไลน์ นั้น
 
     ล่าสุด อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชื่อดัง ผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ตำบลป่าอ้อดอนชัย  อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า สำหรับตนเห็นว่าเอ็มวีดังกล่าวเป็นเรื่องของศิลปะและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี ปัญหาเรื่องของเก่าและใหม่หรือนักอนุรักษ์กับนักสร้างสรรค์เป็นปัญหาใหญ่ของโลก โดยเฉพาะการจะเปลี่ยนแปลงจากโบราณที่ดีไปสู่สิ่งใหม่ที่ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี อย่างกรณีครูบาอาจารย์โขนแสดงนั้นยิ่งจะถือว่าตัวเองมีครูบาอาจารย์ มีความขลัง มีอุดมคติ มีจินตนาการที่ยิ่งใหญ่ ต้องอยู่ในโรงละคร อยู่ในที่อันเหมาะสมและมีความอลังการ ทำให้ตนเห็นว่าถ้าเราจะมีการเปลี่ยนพัฒนาได้อย่างไรเพื่อจะนำไปสู่สิ่งใหม่ที่เป็นผลดีต่อประเทศไทย
 
     "ต้องยอมรับว่าพวกเราต่างไม่รู้ศิลปะ ดื้อดึงด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยคนอนุรักษ์ที่จะเอาแต่อนุรักษ์ แล้วอย่างนี้จะพัฒนาได้อย่างไร ส่วนคนรุ่นใหม่จะทำสิ่งใดก็ต้องระวังอย่าเกินเลย แต่กรณีของทศกัณฐ์นี้ผมเห็นว่าไม่เกินเลยโดยถือว่าเป็นการพัฒนาการงานศิลปะของชาติไปสู่ความเป็นศิลปะร่วมสมัย เท่าทันกับคนรุ่นใหม่ถือเป็นสิ่งที่ดี เป็นของใหม่อาจดูสนุกสนาน แต่อาจไม่ถูกใจคนรุ่นเก่า ขี่รถ เล่นต่างๆ เพราะมองว่าทศกัณฐ์ไม่ใช่ของเล่น แต่มีอุดมคติ ทรงพลังอำนาจอยู่ในโรงละคร งดงาม ไม่ใช่ออกมาเล่น แต่ผมว่าก็ไม่น่าเป็นไรเพราะทำให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักทศกัณฐ์ด้วยเหตุนี้ตนจึงได้หันมาพัฒนาศิลปะของชาติไปสู่ความเป็นสากล ซึ่งเดิมก็เคยถูกต่อต้านมานานเหมือนลักษณะนาฏศิลป์เช่นกัน แต่สุดท้ายปรากฎว่าได้รับการยอมรับไปสู่ซีกโลกอื่นหรือมีให้เห็นที่วัดร่องขุ่นอย่างในทุกวันนี้"
 
     อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ทศกัณฐ์ในเอ็มวีนี้ก็อยู่ในสถานที่ที่ดีไม่ใช่ไปอยู่ในที่อโคจรหรือไปถ่ายกับภาพโป้ จะขี่จักรยานบ้างก็ไม่เป็นไรไม่ใช่ขี่ม้าอย่างเดียว เพราะทำให้คนรุ่นใหม่สนใจ เยาวชนสนใจ นักท่องเที่ยวก็หันมาสนใจด้วย ซึ่งตนว่าเป็นผลดีเสียอีก หรือแม้แต่การที่คนออกมามีความเห็นขัดแย้งกันเช่นนี้ตนก็ว่าดีเพราะทำให้สังคมมีความสนใจติดตาม ตนจึงขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายอย่าได้ทะเลาะกันเลยหันหน้าเข้าหากันพัฒนาชาติเพราะเรื่องนี้เคยเป็นปัญหามากว่า 40 ปีในยุคของตนแล้วและเราได้ผ่านพ้นมันมาแล้วจึงขอให้มาสู่สิ่งดีๆดีกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง