เมื่อเวลา 16.00 น. หญิงอายุ 26 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวได้พาเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เดินทางเข้าร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังถูกลุงเขย ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา 2 ครั้งและถูกขู่จะฆ่าไม่ให้บอกใคร เมื่อพาเด็กหญิงไปแจ้งความที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้ง บอกให้พ่อแม่ของเด็กพาเข้ามาแจ้งเอง อีกทั้งมีน้องสาวของดญ.เอ วัย 9 ปี ที่ได้ไปที่บ้านลุงเขยคนดังกล่าว เกรงว่าจะถูกกระทำเช่นกัน จึงได้เดินทางร้องขอความช่วยเหลือ
น้าสาว กล่าวเปิดเผยว่า ดญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี มีพี่น้องอยู่ 2 คน อีกคนอายุ 9 ปี ซึ่งพ่อและแม่ของทั้งสองคนแยกทางกัน พ่อไปทำงานบนเรือประมง จึงให้หลานสาวทั้งสองคน อยู่กับปู่และย่า ที่บ้านเพิงพัก ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับบ้านป้า ซึ่งที่บ้านป้ามีน้ำมีไฟฟ้า ทำให้หลานสาวทั้งสองคน มักจะไปที่บ้านป้าบ่อย ๆ เพื่อไปดูโทรทัศน์ หลายครั้งก็มักจะนอนค้างคืนที่บ้านป้า ส่วนตนเองเช่าบ้านอยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งห่างกับบ้านหลานสาวมาก นานๆครั้งจะเข้ามาเยี่ยมปู่กับย่า และมาที่บ้านป้า
กระทั่งช่วงหลังหลานสาวคนโตมีอาการเงียบเฉย มีพฤติกรรมแปลก ๆ ตนได้เรียกหลานคนโตมาสอบถาม จึงยอมเล่าให้ฟังว่า ถูกลุงเขย ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของป้า ข่มขืนกระทำชำเรามา 2 ครั้ง ซึ่งลุงเขยได้ขู่จะฆ่า ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร มิฉะนั้นจะบีบคอจะทุบตีให้ตาย ด้วยความกลัวของเด็กจึงไม่กล้าบอกใคร และเมื่อถามถึงน้องสาวอีกคน อายุ 9 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของป้า ดญ.เอ ซึ่งเป็นพี่สาวก็บอกว่า เคยถามน้องแล้วแต่น้องก็เงียบไม่ตอบ และก็มีอาการเงียบเฉยเช่นกัน จึงเกรงว่าจะถูกกระทำด้วย ตนเองจึงได้แอบไปรับหลานสาวคนโตออกมาจากบ้านนั้นก่อน เพื่อจะนำมาเลี้ยงดูเองและจะพาไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อไปแจ้งความกับกลับไม่สามารถแจ้งความได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าต้องให้พ่อแม่พามาแจ้งความ ซึ่งตนเองก็แจ้งว่าพ่อแม่เด็กแยกทางกัน ไม่สามารถเดินทางมาได้ อีกอย่างเอกสารของเด็กทั้งสองก็อยู่กับป้า ซึ่งตนเองยังไม่ได้บอกให้ใครทราบเนื่องจากเกรงว่าจะถูกต่อว่า จึงได้พาหลานคนโตเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิฯ และจะขอให้ช่วยเหลือหลานอีกคนออกมาจากบ้านป้า
ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสานกับทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิตแล้ว เบื้องต้นได้ขอให้ทางน้าสาวเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน โดยจะได้ให้เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมหรือความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมนำตัวเด็กไปตรวจร่างกาย และจะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่บ้านของป้าและเข้าช่วยเหลือน้องสาวอีกคน ซึ่งจากนั้นจะได้ช่วยเหลือเด็กทั้งสองคน ให้มาอยู่ในความดูแลที่บ้านพักเด็กก่อน อีกทั้งจะต้องสอบสวนเด็กที่ถูกกระทำต่อหน้าอัยการและนักสังคมสงเคราะห์สหวิชาชีพ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในการเอาผิดดำเนินคดีตามกฏหมายกับลุงเขยที่กระทำกับเด็กให้ถึงที่สุด ซึ่งทราบว่าลุงเขยมักจะดื่มเหล้าเมาบ่อย ๆ จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์การกระทำขึ้น จึงขอฝากเตือนผู้ปกครองขอให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดเนื่องจากสังคมในสมัยนี้เกิดเหตุการณ์ที่เด็กและสตรีถูกกระทำบ่อยครั้ง จากปัญหาสื่อต่าง ๆ และปัจจัยอื่น ๆ ที่ผู้กระทำจดจ้องจะกระทำกับเด็กและสตรีได้ตลอดเวลา
+ อ่านเพิ่มเติม