เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook เกี่ยวกับเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่หน้าสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น พร้อมคลิปเหตถการณ์ โดยระบุว่า
ยิงทำไม? คนไทยด้วยกัน
วันนี้เวลาตี 4 พระยังไม่ออกบิณฑบาต กกต. นัดหมายบรรดาพรรคการเมืองไปจับเบอร์ โดยเข้าที่กระทรวงเเรงงาน ที่อยู่ติดกับสนามกีฬา ไทยญี่ปุน
ม็อบ คปท มาปิดล้อม เวลาประมาณ 7 โมง ด้วยขบวนรถขยายเสียงเเละรถบัส เริ่มเปิดเจรจากับตำรวจ ขอเข้าไปข้างในเพื่อขัดขวางการจับหมายเลขผู้สมัครเลือกตั้ง เเต่ตำรวจไม่อนุญาติ ม็อบจึงนำบันไดไม้ไผ่มาพาดรั้วกำเเพง ตำรวจพยายามผลักดัน เเกนนำเปิดเพลงปลุกใจเเละสั่งการผู้ชุมนุม เหตุการณ์เริ่มรุ่นเเรงขึ้น ตำรวจใช้เเก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม
ขณะนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ จนกระทั่ง เวลาประมาณ 9.30 น. ผมอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามประตูกระทรวงเเรงงาน บริเวณเพิงขายโจ๊ก โดยไช้ชุดพลางตัว สวมหมวกไหมพรม ใส่เเว่นเเละหน้ากากกันเเก๊สน้ำตา หลบกระสุนอยู่หลังต้นไม้ ทันใดนั้นเสียงปืนดังรัวขึ้น 5 นัดติดต่อกัน จากฝั่งซอยด้านซ้ายมือของผม คราวนี้ชายที่อยู่กลางถนนห่างจากที่ผมยืนประมาณ 10 เมตรได้ล้มลง โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมเเละผมวิ่งเข้าไปช่วย พบว่าถูกยิงเข้าที่หัว ผมได้ถ่ายคลิปวีดีโอจากมือถือผมไว้ได้
การเลือกตั้งครั้งนี้คงเป็นการ ”เลือกตั้งเลือด” เพราะวุ่นวายตั้งเเต่วันสมัคร จนถึงวันจับเบอร์ที่มีคนบาดเจ็บ ผมไม่ทราบว่าทำไม? การเลือกตั้งที่เป็นกติกาสากลของระบอบประชาธิปไตยถึงถูกขัดขวางมากขนาดนี้ เเม้ว่าเป็นที่ถกเถียงว่าจะ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” หรือ “เลือกตั้งก่อนปฏิรูป” ท้ายสุดมันก็วนกลับมาที่การเลือกตั้งอยู่ดี เเค่นี้คนไทยด้วยกันก็ไม่มีใครยอมใคร เป็นเพราะความเชื่อ อุดมการณ์ หรือนักการเมืองที่ทำให้เราเกลียดชัง กันได้ถึงขนานนี้
ผมเเค่อาสามาทำงาน ไม่ได้มาทำกิน ใช่ว่ามาจับฉลากล็อตเตอรี่ ร่ำรวยเงินทองมหาศาล เเทนวันนี้ผมจะอยู่กลางสนามเพื่อจับเบอร์เเวดล้อมด้วยเสียงเชียร์ของผู้สนันสนุน กลับต้องมาอยู่ทามกลางเสียงโห่ร้องของคว่มขัดเเย้ง เสียงปืนเเละเเก๊สน้ำตาเสียงไซเลนเเละผู้บาดเจ็บ ผมจึงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้ หรือเพราะว่าพรรคประชาธิปปัตย์ ไม่ได้ลงเลือกตั้งครั้งนี้ มันถึงได้วุ่นวายกันได้ถึงขนานนี้
ที่สำคัญ ผมอยากถามจริงๆว่า “ยิงกันทำไม? คนไทยด้วยกัน”