เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัวเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง โดยระบุว่า
“นักท่องเที่ยวหนีเมืองไทย”
วันนี้วันอาทิตย์ ผมไปวัดพระแก้ว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย แขกไปใครมาต้องมาเยี่ยมเยียน เจ้าหน้าที่บอกผมว่าปกติวัดพระแก้วมีนักท่องเที่ยวถึง 15,000 คนต่อวัน แต่ปัจจุบันลดเหลือเพียงวันละ 7,000 คนเท่านั้น
เป็นเพราะปัญหาการเมืองไทย ม็อบประท้วงอย่างยาวนานและไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ ทั้งเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยว ธุรกิจต่างๆพังทลายลงอย่างรวดเร็ว เงินในกระเป๋าของคนไทยก็ร่อยหรอ ทุกคนได้รับผลกระทบกันเป็นลูกโซ่
เมื่อคนไม่มีเงิน ก็ใช้จ่ายกันน้อยลง ส่งผลถึงร้านค้าต่างๆ ไม่ว่าค้าปลีก ค้าส่ง ไปจนถึงโรงงานผลิต เมื่อยอดผลิตน้อย ก็ส่งผลกลับมาถึงแรงงานที่ต้องตกงาน ไม่เพียงแค่ชื่อเสียงของประเทศไทยเท่านั้นที่ต้องย่อยยับป่นปี้จากพิษความวุ่นวายทางการเมือง ธุรกิจบริการอื่นๆเช่นโรงแรม ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า การขนส่งต่างๆ ต้องพลอยดิ่งเหวลงไปด้วย
ตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เนื่องจากพี่ไทยจัดให้ ยังทะเลาะกันไม่เสร็จ เขาเลยหนีไปประเทศอื่นหมด
แม้คุณสุเทพจะได้รับชัยชนะทางการเมือง แต่ประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องตกนรกทั้งเป็น ต่อไปเราอาจมีวลีประจำใจที่ว่า "ไม่น่าไปเชื่อสุเทพเลย เราควรจัดการทุกอย่างไปตามระบบ และปล่อยให้การเมืองแก้ปัญหาด้วยตัวมันเอง"
ผมเชื่อว่าตอนนี้ประชาชนหลายคนเปลี่ยนใจไม่สนับสนุนสุเทพอีกต่อไป และหันกลับมาเดินตามระบบ ด้วยการเดินออกจากหน้าเวทีม็อบ แล้วเดินหน้าเข้าคูหาเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย