สาวมือตบตำรวจเมืองนนท์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา เผยโดนจับหัวโขกกับกระจกก่อนจึงฟิวส์ขาด
logo ข่าวอัพเดท

สาวมือตบตำรวจเมืองนนท์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา เผยโดนจับหัวโขกกับกระจกก่อนจึงฟิวส์ขาด

7,987 ครั้ง
|
23 ส.ค. 2559
     จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ที่หญิงคนหนึ่ง คือนางสาวภัทรจิรา เงินกรุง อายุ 39 ปี มีเรื่องทะเลาะวิวาทตบตีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งภายหลังทราบชื่อคือ ร.ต.ท.ประดิษฐ์ ไทยยากรณ์ รองสว.จร.สภ.เมืองนนทบุรี ภายในป้อมตำรวจ จากการสอบถามฝั่งตำรวจ ทราบว่าคู่กรณีซ้อนท้ายจักรยานยนต์รับจ้างมากับเพื่อนหญิง 3 คน และได้ฝ่าไฟแดง จึงได้จับกุมตัวและให้ไปรับใบสั่งที่ป้อมดังกล่าว ก่อนที่จะเกิดเหตุ ภายหลังทั้งสองฝ่ายต่างเข้าแจ้งความดำเนินคดีซึ่งกันและกัน โดยนางสาวภัทรจิราแจ้งว่าถูกทำร้ายร่างกาย ส่วน ร.ต.ท.ประดิษฐ แจ้งกลับ 3 ข้อหาคือ 1. ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติการตามหน้าที่ 2.ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติตามหน้าที่ และ 3. ทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 ส.ค.นั้น 
 
     ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.ภัทรจิรา เงินกรุง อายุ 39 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.(หญิง) รัตน์ชนก บุญนำ รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองนนทบุรี เจ้าของคดีเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยได้เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุหลังจากเดินทางมาที่ป้อมแล้วนายอำพล บัวทอง คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้ออกมาบอกกับตนว่าตำรวจไม่ยอมออกใบสั่งและจะยึดรถ ตนเองเห็นว่านายอำพลต้องใช้รถเพื่อรับจ้างหาเช้ากินค่ำ ก็รู้สึกเห็นใจ จึงเดินเข้าไปในป้อมและพูดเจรจาขอให้ตำรวจออกใบสั่ง แต่ตำรวจกับพูดใส่ตนว่า "ไม่ใช่เรื่องของ.. ออกไป" ตนเลยตอบกับไปว่า "พวก..หา..(กิน).กันอย่างนี้เหรอ" ทำให้ตำรวจไม่พอใจ และพยายามจะผลักตนเองออกจากป้อม
 
     จากนั้นได้จับหัวตนโขกกับกระจกประตูป้อมยาม และใช้มือบีบคอตนจนหายใจไม่ออก ด้วยความโมโหและต้องป้องกันตัวจึงได้ใช้มือและเท้าถีบและตบตระกุยไปตามใบหน้าของตำรวจอย่างที่เห็นในคลิป โดยยอมรับว่าตนก็มีอารมณ์และทำรุนแรงกว่าเหตุ ตั้งแต่วันนั้นตนก็กลายเป็นจำเลยของสังคม มีแต่คนโพสต์ด่าเสียๆหาย ทั้งๆที่โดนกระทำก่อน จึงขอความเป็นธรรมด้วย
 
     หลังสอบปากคำเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.ภัทรจิรา เงินกรุง ก่อนปล่อยตัวกลับไปเนื่องจากผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง