CNN รายงานว่าตำรวจบราซิลมีหลักฐานว่า ไรอัน ล็อคตี้ นักว่ายน้ำดังสหรัฐวัย 32 ปี เจ้าของ 1 เหรียญทองในริโอเกมส์ และเพื่อนนักว่ายน้ำชาติเดียวกันอีก 3 คน กุเรื่องว่าถูกคนร้ายใช้ปืนจ่อหัวเพื่อปล้นทรัพย์ในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ระหว่างนั่งรถแท็กซี่กลับหมู่บ้านนักกีฬาเช้าวันที่ 14 สิงหาคม หลังกลับจากงานปาร์ตี้ฉลองหลังการแข่งว่ายน้ำโอลิมปิกจบลง
แต่จากการสอบสวนล่าสุดของตำรวจและศาลในบราซิล พบพิรุธและรายละเอียดที่ขัดแย้งกับกล้องวงจรปิด และพยานหลายปาก ที่ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มนักว่ายน้ำเดินผ่านเครื่องสแกนด้วยท่าทางปกติ และมีโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ครบถ้วน ซึ่งเวลานั้นประมาณ 7.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น น่าจะเกิดขึ้นหลังโดนปล้นไม่เกินชั่วโมง ขัดแย้งกับการให้การว่าโดนขู่และโดนปืนจ่อด้วย
ศาลจึงอนุมัติให้มีการยึดพาสปอร์ตทั้ง 4 คนเพื่อไม่ให้ออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม แต่ทั้งหมดกลับไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนักกีฬา ก่อนมีรายงานว่า ล็อคตี้ได้เดินทางกลับถึงสหรัฐแล้ว
แต่กักตัวกุนนาร์ เบนต์ซ และแจ๊ค คอนเจอร์ 2 นักว่ายน้ำเพื่อนร่วมชาติได้ทันที่สนามบินนครรโอฯ จากการสอบสวนพบว่าหนึ่งในนั้นได้พยายามเปิดประตูห้องน้ำในปั๊มแต่ไม่ออก ส่งผลให้นักว่ายน้ำที่เหลือพยายามผลักประตูให้เพื่อนจนประตูห้องน้ำพัง
ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของปั๊ม ที่มีอาวุธปืนอยู่ในมือเข้ามาดูเหตุการณ์ แต่ไม่มีการหันปากกระบอกปืนไปที่ 4 นักว่ายน้ำสหรัฐตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด และจากนั้นผู้จัดการปั๊มน้ำมันก็มาถึง ก่อนเรียกร้องค่าเสียหายค่ากระจกแตก ที่วางสบู่เสียหาย เป็นเงินราว 51 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทั้งหมดก็ยอมจ่ายเงินให้โดยดี ขัดกับคำให้การของนักว่ายน้ำที่บอกว่าถูกปล้นไป 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ