จากกรณีมีประกาศพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษแก่ผู้ต้องขัง โดยมีข้อยกเว้นว่าจะไม่มีการอภัยโทษให้นักโทษข่มขืน ส่งผลให้กระแสสังคมแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกกับการประกาศดังกล่าว แต่ล่าสุดทางเพจทนายคู่ใจออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงว่าการยกเว้นอภัยโทษนักโทษคดีข่มขืนนั้น จะมีการยกเว้นเพียงบางเคสเท่านั้น คือคดีข่มขืนที่ร้ายแรง อย่างคดีเด็กสาวโดนข่มขืนบนรถไฟ หรืออย่างคดีครูสาวถูกกระทำในห้องเช่า ซึ่งกรณีเหล่านี้ไม่สามารถยอมความได้ พวกนี้จึงไม่สมควรได้รับการอภัยโทษ แต่นักโทษคดีข่มขืนอื่นๆอาจจะยังได้รับการอภัยโทษ โดยมีการระบุข้อความว่า
"ไหนบอกว่าจะไม่อภัยโทษให้พวกที่ติดคุกจากคดีข่มขืนไงล่ะ !!!
หลังจากที่พระราชกฤษฎีกาอภัยโทษได้ประกาศใช้ สื่อมวลชนสาขาต่างๆ ก็เสนอข่าวกันว่า “ไม่มีการอภัยโทษให้นักโทษข่มขืน” ผมเลยไปค้นดูกฎหมายฉบับนั้นดู ปรากฏว่าไม่ได้รับการยกเว้นอภัยโทษนักโทษคดีข่มขืนจริงด้วย
แต่ๆๆๆเป็นเฉพาะเคสข่มขืนที่มีลักษณะรุมโทรม ข่มขืนแล้วฆ่า ข่มขืนเด็ก กล่าวคือเป็นเคสข่มขืนที่ร้ายแรง เป็นกรณีที่สังคมรุมด่า รุมประณาม อย่างกรณีของน้องที่โดนข่มขืนบนรถไฟแล้วโยนทิ้ง หรือเคสครูสาวที่โดนข่มขืนแล้วฆ่าปาดคอเท่านั้น ซึ่งกรณีเหล่านี้ไม่สามารถยอมความได้ พวกนี้จึงไม่สมควรได้รับการอภัยโทษ
แต่ปรากฏว่านักโทษคดีข่มขืนธรรมดานี่สิ ทำไมถึงยังมีสิทธิได้รับการอภัยโทษอยู่ละ เป็นเพราะอะไร ?
ตามประมวลกฎหมายอาญาม.276 วรรคแรก การข่มขืนกระทำชำเราแบบธรรมดา เป็นการข่มขืนที่ไม่ร้ายแรง เมื่อเป็นการใช้กำลังประทุษร้ายที่ไม่ได้ทำให้เหยื่อเสียชีวิต หรือได้รับอันตรายสาหัสและไม่ได้กระทำในที่สาธารณะ ก็เป็นความผิดที่สามารถยอมความได้ (ม.281)
หมายความว่ากฎหมายได้แบ่งชนชั้นวรรณะของการข่มขืน เป็นกรณีร้ายแรง กับธรรมดา ยอมความได้ กับยอมความไม่ได้หรือเนี่ย ?
ตราบใดที่การข่มขืนแบบไม่ร้ายแรง ยังสามารถยอมความกันได้ และยังได้รับการอภัยโทษอยุ่ คุณคิดจริงๆหรือว่า จะทำให้คดีข่มขืนลดลงไปจากสังคม ?
เรื่องนี้สังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องถกเถียงเรื่องความเหมาะสมกันต่อไป หรือจะปล่อยนักโทษข่มขืนพวกนี้ออกมาเพ่นพ่านในสังคมละครับ"
ลิงค์ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๙ https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/A/068/1.PDF
ข้อมูลจากเพจ ทนายคู่ใจ