สภาทนายความยัน ฟ้องแพ่งทนายโกงเงินแม่เด็กพิการได้ หากใครรับโอนทรัพย์สินก็ผิดด้วย
logo ข่าวอัพเดท

สภาทนายความยัน ฟ้องแพ่งทนายโกงเงินแม่เด็กพิการได้ หากใครรับโอนทรัพย์สินก็ผิดด้วย

ข่าวอัพเดท : โฆษกสภาทนายยืนยัน ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีแพ่งกับนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศได้ พร้อมระบุผู้ที่รับโอนทรัพย์สินมีความผิดฐานฉ้อโกงเจ้าทรัพย์ด้วย สภาทนายความ,พิสิษฐ์ สัมมาเลิศ,ทนาย,ฉ้อโกง

2,956 ครั้ง
|
17 ก.ค. 2560
โฆษกสภาทนายยืนยัน ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีแพ่งกับนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศได้ พร้อมระบุผู้ที่รับโอนทรัพย์สินมีความผิดฐานฉ้อโกงเจ้าทรัพย์ด้วย
 
นายเสาวภักดิ์ สกุลโรมวิลาส โฆษกสภาทนายความและอุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เปิดเผยหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ และนางสาวฐิติภา สวัสดี ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติหมายจับฐานในคดีฉ้อโกง นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ และน้องบีม เด็กหญิงผู้พิการ โดยได้เปิดเผยกับทีมข่าวไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อเวลา 10.30 น. ว่าภายหลังที่คณะกรรมการฝ่ายบริหารได้ประชุมมรรยาททนายความและมีมติจำหน่ายชื่อ นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ออกจากทะเบียนทนายความ ทำให้นายพิสิษฐ์พ้นสภาพจากการเป็นทนายความ และไม่สามารถที่จะว่าความคดีใดๆได้อีก
 
ในขณะเดียวกันสภาทนายความซึ่งได้ร่วมกับเนติบัณฑิตยสภา ยังคงกำกับดูแลคดีให้กับผู้เสียหายโดยเฉพาะในคดีแพ่ง เพราะขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี รวมทั้งได้มีการสืบทรัพย์ของนายพิสิษฐ์เพื่อที่จะดำเนินการขอยึดและอายัดทรัพย์สินเพื่อนำมาขายทอดตลาดและมาเยียวยาให้กับผู้เสียหาย หากพบว่ามีการโยกย้ายทรัพย์สินผู้ที่รับโอนก็จะมีความผิด เนื่องจากตัวนายพิสิษฐ์อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีและยังมีการรับโอน จึงถือว่าเป็นการฉ้อโกงเจ้าทรัพย์ ยืนยันสามารถดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกร้องทรัพย์จากทนายพิสิษฐ์ได้อย่างแน่นอน และหากทางแม่น้องบีมต้องการให้คณะทำงานซึ่งอยู่ใต้การดูแลของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีทนายความจากเนติบัณฑิตยสภา สภาทนายความ และทนายความที่กระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งขึ้น ต้องการให้เป็นทนายเพื่อขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาก็พร้อมที่จะดำเนินการตามความต้องการ
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง